เอเจนซีส์ - มีรายงานประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน วันศุกร์ (9 ธ.ค.) ออกมาข่มขู่จะใช้พรีแอมทีฟ สไตรก์ (Preamtive Strike) ตามสหรัฐฯ หลังรู้เพนตากอนแอบไฟเขียวให้ยูเครนสามารถใช้โดรนโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (11 ธ.ค.) ว่า ในเวลานี้เจ้าหน้าที่รัสเซียกำลังตอบโต้ต่อรายงานที่ออกมาว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อนุญาตประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี สามารถใช้โดรนโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้
ซึ่งเป็นสิ่งที่เพนตากอนได้ห้ามไว้ในอดีตด้วยเกรงว่าจะเกิดสงครามขึ้นระหว่างรัสเซีย-นาโต้ ที่มีสหรัฐฯ ร่วมเป็นสมาชิก
หนึ่งในแหล่งข่าววงในประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยในคืนที่ผ่านมาว่า “นี่เป็นการเล่นกับไฟ เสี่ยงที่จะเกิดสงครามเต็มรูปแบบที่อาจจะทำให้เกิดการใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ง่าย”
ขณะที่อีกคนกล่าวว่า “ใครจะให้ไฟเขียวแก่มอสโกสำหรับการโจมตียูเครนที่มีการตัดสินใจแบบรวมศูนย์”
เดลีเมลรายงานว่า ดูเหมือนเพนตากอนจะเปลี่ยนทิศทางหลังการยกระดับในการโจมตีจากรัสเซียต่อเมืองต่างๆ ในยูเครน โดยเฉพาะอิหร่านได้ช่วยสนับสนุนรัสเซียด้วยโดรน Shahed-136 kamikaze
และกลายทำให้อิหร่านกลายเป็นชาติสำคัญที่สุดในการป้อนอาวุธให้รัสเซียในสงครามยูเครนไปแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อส่งมอบมิสไซล์แบบทิ้งตัวให้รัสเซีย
ประธานาธิบดีเซเลนสกี แถลงว่า กองทัพอากาศยูเครนประสบความสำเร็จสามารถทำลายโดรนอิหร่าน 10 ตัว จากทั้งหมด 15 ตัวได้สำเร็จหลังจากที่โดรนเหล่านี้ถูกใช้เพื่อเป้าหมายโจมตีพื้นที่ต่างทางภาคใต้ของยูเครนเมื่อช่วงต้นของวานนี้
คืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัสเซียได้ชี้ว่า ยูเครนได้โจมตีดินแดนภายในรัสเซียเกิดขึ้นที่ฐานทัพอากาศเองเกลส์ (Engels) และฐานทัพอากาศ Dyagilevo
หนึ่งในเจ้าหน้าที่รัสเซียคือ คอนสแตนติน กาวริลอฟ (Konstantin Gavrilov) กล่าวแสดงความเห็นว่า “การยั่วยุที่เกิดขึ้นต่อฐานทัพอากาศเหล่านี้สามารถสร้างความเสี่ยงความมั่นคงทางนิวเคลียร์ได้”
มีรายงานว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดทางไกล 2 ลำสมรรถนะติดหัวรบนิวเคลียร์ Tu-95 ของรัสเซียได้รับความเสียหาย
สื่ออังกฤษรายงานว่า รัสเซียสั่งยกระดับการป้องกันของตัวเองรอบกรุงมอสโก และความพร้อมของบังเกอร์หลบภัยท่ามกลางความวิตกการโจมตีจากยูเครน