ธนาคารกลางจีนแถลงวานนี้ (7 ธ.ค.) ว่าปริมาณทองคำสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นอีก 32 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 62,600 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จีนออกมาเปิดเผยตัวเลขทองคำสำรองเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2019
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ทองคำสำรองของจีนตามข้อมูลล่าสุด ณ ช่วงปลายเดือน พ.ย. อยู่ที่ 1,980 ตัน หรือคิดเป็นราวๆ 112,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.89 ล้านล้านบาท)
จีนมีปริมาณทองคำสำรองที่แถลงอย่างเป็นทางการมากเป็นอันดับ 6 ของโลก ตามหลังสหรัฐอเมริกาซึ่งมีทองคำสำรองมากที่สุด 8,133.5 ตัน และรองลงมาได้แก่ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส และรัสเซีย
บางครั้งทางการจีนก็ไม่ได้มีการปรับตัวเลขทองคำสำรองเป็นเวลานานหลายปี ก่อนจะออกมาเผยทีเดียวว่ามีทองคำเพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยตัน ทว่าในบางช่วงเวลาจะมีการรายงานตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน
สภาทองคำโลก (World Gold Council - WGC) รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า ธนาคารกลางทั่วโลกมีการกว้านซื้อทองคำรวมกัน 399 ตันในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งถือว่ามากเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงระยะเวลา 3 เดือน และยังเผยด้วยว่าทองคำส่วนใหญ่ถูกซื้อโดยธนาคารกลางของประเทศซึ่งไม่เปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า “จีน” หรือ “รัสเซีย” อาจกำลังซุ่มสะสมทองคำสำรองอยู่
ความต้องการซื้อทองคำโดยธนาคารกลางของประเทศต่างๆ คาดว่าจะช่วยพยุงอุปสงค์และราคาทองคำ ซึ่งปัจจุบันซื้อขายกันอยู่ที่ราวๆ 1,775 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ราคาทองคำซึ่งปรับตัวลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นผลมาจากนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ย และผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนในยุโรปและสหรัฐฯ
รายงานปริมาณทองคำสำรองของจีนเป็นส่วนหนึ่งของชุดข้อมูลที่ธนาคารกลางจีนเผยแพร่ ซึ่งยังระบุด้วยว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่คาดหมายในเดือน พ.ย.
ที่มา : รอยเตอร์