เอเจนซีส์ - ท่ามกลางการประกาศจากนายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก ลอนดอน บรีด เดือนที่ผ่านมาว่า ซานฟรานซิสโกมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก ครั้งที่ 30 ต่อจากกรุงเทพฯ ในปีหน้า บอร์ดบริหารเมืองซานฟรานซิสโกโหวต 8&3 อนุญาตให้ตำรวจสามารถใช้โรโบคอปหุ่นสังหารจัดการคนร้ายในสถานการณ์ที่ร้ายแรง
ซีแอตเติลไทม์ส รายงานเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) ว่า เมืองซานฟรานซิสโกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองลิเบอรัลเต็มเปี่ยมไปด้วยเสรีภาพและความหลากหลายท่ามกลางอาชญากรรมที่พุ่งสูงมาตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 เมื่อปี 2020
ทั้งนี้ บอร์ดผู้กำกับซานฟรานซิสโก (San Francisco Board of Supervisor) ซึ่งทำหน้าที่เป็นสภาเมืองในวันอังคาร (29 พ.ย.) ที่ผ่านมาลงมติด้วยเสียง 8-3 อนุญาตให้ตำรวจซานฟรานซิสโกสามารถนำหุ่นยนต์สังหารติดระเบิดออกไปใช้จัดการคนร้ายในสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่อยู่ในเงื่อนไขที่ชีวิตมนุษย์ตกอยู่ในอันตราย และไม่สามารถใช้ทางเลือกอื่นได้
ในรายงานของเดอะซันเดลี สื่อมาเลเซียเมื่อวันศุกร์ (2) สำนักงานตำรวจซานฟรานซิสโกได้อ้างเหตุผลความจำเป็นต้องนำหุ่นยนต์สังหารโรโบคอปมาจัดการคนร้ายว่า ทางตำรวจจะใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายและจะใช้เฉพาะในสถานการณ์ที่มีความร้ายแรงมากที่สุดเท่านั้น เป็นต้นว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายและมือกราดยิงสังหารหมู่เท่านั้น
“พวกเราอยู่ในช่วงเวลาที่ความรุนแรงหมู่อย่างคาดไม่ถึงนั้นกลายเป็นสิ่งที่ปกติไป พวกเราจำเป็นต้องมีทางเลือกที่จะช่วยรักษาชีวิตคนในเหตุที่พวกเรามีเกิดขึ้นในเมืองของพวกเรา”
อย่างไรก็ตาม สื่อมาเลเซียชี้ว่า สำนักงานตำรวจเมืองซานฟรานซิสโกนั้นมีหุ่นยนต์ประเภทต่างๆ อยู่ในคลังแสงก่อนหน้าแล้วซึ่งสามารถควบคุมได้จากระยะไกลและใช้ในสถานการณ์ระเบิดหรือมีสารอันตรายเกี่ยวข้อง หรือในสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องอยู่ให้ห่างก่อนที่จะทำให้พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในความควบคุม
ความสำเร็จของเมืองซานฟรานซิสโกที่สามารถนำหุ่นยนต์มาใช้ในสถานการณ์คับขันได้เกิดขึ้นท่ามกลางสำนักงานตำรวจทั่วสหรัฐฯ เพิ่มการตรวจสอบสำหรับการใช้เครื่องมือทางการทหารและกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งมาถึงเวลานี้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีเพียงแค่ซานฟรานซิสโกและโอ๊คแลนด์เท่านั้นที่มีการถกเถียงทางสาธารณะในการนำหนุ่นยนต์เข้ามาช่วยตำรวจในการทำคดี ซึ่งเมืองโอ๊คแลนด์เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีปัญหาอาชญากรรมอย่างหนักไม่แพ้ซานฟรานซิสโก
ซีแอตเติลไทม์สรายงานว่า เมืองดัลลัส รัฐเทกซัสกลายเป็นเมืองแรกในสหรัฐฯ ที่ใช้หุ่นยนต์ปลิดชีพคนร้ายในปี 2016 เกิดขึ้นขณะที่ตำรวจดัลลัส กำลังเผชิญหน้ากับคนร้ายที่มีปืนสไนเปอร์เป็นอาวุธและได้สังหารตำรวจไปแล้วถึง 5 นาย และทำให้ตำรวจบาดเจ็บอีก 9 นาย
การอนุมัติการใช้หุ่นยนต์ของสภาเมืองซานฟรานซิสโกเกิดขึ้น ในระหว่างที่เมืองซานฟรานซิสโกกำลังจะเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ครั้งที่ 30 ต่อจากกรุงเทพฯ ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า
อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของเมือง พบว่าการจัดจะเกิดขึ้นที่ มอสโคน เซ็นเตอร์ (Moscone Center) และคาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมได้เป็นจำนวนมากจากทั่วโลกมายังซานฟรานซิสโก และทำให้เงินสะพัดถึง 36.5 ล้านดอลลาร์
ประเทศที่จะเข้าร่วมการประชุมซัมมิตเอเปกที่ซานฟรานซิสโกนั้น รวมไปถึงสหรัฐฯ จีน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย ซึ่งเป็นการจัดงานเป็นเวลา 5 วัน โดยนายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโก ลอนดอน บรีด ชี้ว่าซานฟรานซิสโกมีความสำคัญในฐานะเกตเวย์ต่อภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และอีกทั้งซานฟรานซิสโกมีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษาในความเชื่อมโยงต่อภูมิภาค
บรีดยังตั้งความหวังว่าซานฟรานซิสโกของเธอจะเป็นจุดหมายหลักสำหรับการลงทุนโดยตรงจากภูมิภาคเอเชียสู่สหรัฐฯ