อิเหนายกระดับเตือนภัยเซเมรูขั้นสูงสุด ชาวบ้านเร่งอพยพหลังภูเขาไฟปะทุหนัก

เอเจนซีส์ - อินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟเซเมรู ซึ่งเป็นภูเขาไฟสูงที่สุดบนเกาะชวา เป็นระดับสูงสุดในวันอาทิตย์ (4) หลังปะทุพ่นเถ้าถ่านพวยพุ่งในอากาศสูง 15 เมตร และประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณนั้นพากันอพยพออกมาแล้ว

การปะทุของภูเขาไฟเซเมรูทางฝั่งตะวันออกของชวาเกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหวหลายระลอกทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ซึ่งรวมถึงเมื่อเดือนที่แล้วที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน และเมื่อวันอาทิตย์ศูนย์บรรเทาภัยพิบัติทางธรณีวิทยาและภูเขาไฟอินโดนีเซีย (พีวีเอ็มบีจี) ได้ยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟเซเมรูจากระดับ 3 เป็น 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และหมายความว่า มีอันตรายสำหรับการพักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง และภูเขาไฟจะปะทุมากขึ้น

เฮนดรา กูนาวัน ผู้อำนวยการพีวีเอ็มบีจี เสริมว่า พีวีเอ็มบีจีพบแนวโน้มที่ภูเขาไฟจะพ่นแม็กมามากกว่าการปะทุในปี 2021 และ 2020 ซึ่งหมายความว่า จะมีครัวเรือนได้รับผลกระทบมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ยังเตือนให้ประชาชนงดทำกิจกรรมในรัศมี 8 กิโลโมตรจากศูนย์กลางการปะทุของเซเมรู และเสริมว่า เถ้าภูเขาไฟที่มีความร้อนสามารถไหลไปไกลถึง 19 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการปะทุ

ภาพจากสถานีทีวีท้องถิ่นเผยให้เห็นผู้อพยพซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก หนีไปหลบภัยในโรงเรียน ขณะที่วิดีโอที่หน่วยกู้ภัยท้องถิ่นเผยแพร่เป็นภาพเมฆก้อนใหญ่ดำทะมึนพุ่งขึ้นมาจากปล่องภูเขาไฟปกคลุมท้องฟ้าและบดบังแสงอาทิตย์ในบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียง

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายยังเกิดฝนตกหนักในหมู่บ้านเหล่านั้น และฝนตกลงมาผสมกับเถ้าภูเขาไฟ

ทางการยังเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ระยะทาง 13 กิโลเมตรเลียบแม่น้ำซึ่งเป็นเส้นทางที่เถ้าภูเขาไฟไหลผ่าน

แพตเทรีย ดวิ ฮาสเตียดิ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติลูมาจัง เผยว่า ประชาชนส่วนใหญ่ใน 2 หมู่บ้านที่มีความเสี่ยงที่สุดอพยพออกมาเองแล้ว

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นรายงานว่า ภูเขาไฟเซเมรูพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่อากาศสูงถึง 15 กิโลเมตร และก่อนหน้านี้ได้เตือนว่า อาจเกิดสินามิทางใต้ของเกาะมิยาโกะ และยาเอะยามะ ในจังหวัดโอกินาวา แต่หลังจากนั้นสถานีเอ็นเอชเครายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้อัปเดตข้อมูลและระบุว่า การปะทุของภูเขาไฟเซเมรูไม่ได้ทำให้เกิดสึนามิแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว ภูเขาไฟเซเมรูซึ่งเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในชวา ได้ปะทุขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน และสูญหายอีกจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย

รัฐบาลท้องถิ่นลูมาจังเผยว่า ชาวบ้านบางคนที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟตัดสินใจอพยพไปยังอาคารที่ปลอดภัยกว่า เช่น มัสยิด และโรงเรียน

ขณะเดียวกัน อาสาสมัครท้องถิ่นคนหนึ่งเผยว่า ถนนส่วนใหญ่ปิดตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ และตอนนี้เถ้าภูเขาไฟกำลังไหลลงมาจนบดบังทัศนียภาพของภูเขา และเสริมว่า ยังมีการปะทุขนาดเล็กอย่างต่อเนื่องและมีฝนตกในบริเวณภูเขาไฟ

สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย (บีเอ็นพีบี) แถลงว่า ภูเขาไฟเริ่มปะทุเมื่อเวลา 2.46 น. วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น

อินโดนีเซียมีภูเขาไฟ 142 ลูก และเป็นประเทศที่มีประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟมากที่สุดในโลก ซึ่งรวมถึงประชาชน 8.6 ล้านคนที่อาศัยอยู่ห่างจากภูเขาไฟเพียง 10 กิโลเมตร

เหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมืองซีอันจูร์ในชวาตะวันตกเมื่อเดือนที่แล้วมีความแรง 5.6 และเมื่อวันเสาร์ (2) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ในกุรัต ทำให้ประชาชนแตกตื่นหนีออกจากอาคาร แต่ไม่มีความเสียหายรุนแรงแต่อย่างใด