สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานวันนี้ (22 พ.ย.) ว่า สมเด็จพระราชาธิบดี อัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ จะทรงคัดเลือกบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ “ในอีกไม่ช้า” หลังผลเลือกตั้งทั่วไปในมาเลเซียเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด ขณะที่ล่าสุดกลุ่มแนวร่วม บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ซึ่งนำโดยพรรคอัมโน ประกาศจุดยืนขอเป็น “ฝ่ายค้าน” ไม่สนับสนุนทั้ง “อันวาร์ อิบราฮิม” และ “มูห์ยิดดิน ยัสซิน” เป็นผู้นำคนใหม่
แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังมาเลเซียมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การเมืองมาเลเซียที่ดูจะยุ่งเหยิงขึ้นไปอีก โดยหากปราศจากการสนับสนุนจากกลุ่มบีเอ็นที่ได้ ส.ส.เข้ามา 30 ที่นั่ง ก็แปลว่าทั้งกลุ่มของอันวาร์ และมูห์ยิดดิน จะไม่สามารถรวบรวม ส.ส. ได้ถึง 112 เสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ และต้องมาลุ้นกันว่าสมเด็จพระราชาธิบดีจะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยว่าบุคคลใดที่มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.มากที่สุด และจะได้เป็นนายกฯ คนใหม่
สมเด็จพระราชาธิบดีทรงขยายเวลาให้พรรคการเมืองต่างๆ จับขั้วตั้งรัฐบาลภายในเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (22) และได้พระราชทานสัมภาษณ์สื่อที่หน้าพระราชวังหลวงว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจในไม่ช้า” พร้อมกับทรงขอร้องให้ชาวมาเลเซีย “เคารพคำตัดสิน” เกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ด้วย
มาเลเซียเผชิญสภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองและมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 คนในช่วงเวลาแค่ 3 ปี และการที่พรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย (PAS) ซึ่งสนับสนุนการตีความกฎหมายอิสลามแบบเข้มงวดได้ที่นั่ง ส.ส.เพิ่มขึ้นในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ยิ่งทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล โดยเฉพาะในส่วนของนโยบายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการพนัน และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ขณะเดียวกัน ตำรวจมาเลเซียได้เตือนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตให้งดโพสต์เนื้อหา หรือข้อความที่ยั่วยุให้เกิดความแตกแยกทางเชื้อชาติและศาสนาในช่วงเวลาเช่นนี้
กลุ่มแนวร่วมแห่งความหวัง (Pakatan Harapan - PH) ของอันวาร์ อิบราฮิม ได้เปิดเจรจากับกลุ่มบีเอ็นซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองในวันจันทร์ (21) โดยหวังว่าจะสามารถจับมือตั้งรัฐบาลผสมที่มีเสียงข้างมากได้ ขณะที่ มูห์ยิดดิน ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ (Perikatan Nasional - PN) ที่รวมถึงพรรค PAS ด้วย ประกาศว่าตนเองมี ส.ส.สนับสนุนมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว แต่ไม่ได้แจกแจงว่ามีพรรคใดบ้างที่ให้การสนับสนุน
กลุ่ม PH ของ อันวาร์ คว้าที่นั่ง ส.ส.ได้มากที่สุด 82 ที่นั่งจากศึกเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ (19) ขณะที่กลุ่ม PN ของมูห์ยิดดิน ได้มา 73 ที่นั่ง และทั้ง 2 ฝ่ายจำเป็นที่จะต้องจับขั้วกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อรวบรวบ ส.ส.ให้ได้เกิน 112 ที่นั่งสำหรับการเป็นรัฐบาล
แม้บีเอ็นจะได้ที่นั่งในสภาเพียง 30 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าทำผลงานได้ย่ำแย่เป็นประวัติการณ์ในศึกเลือกตั้งทั่วไป แต่มีบทบาทสำคัญในการชี้ขาดว่าฝ่ายไหนจะได้จัดตั้งรัฐบาล และจะถือเป็นความพลิกผันครั้งใหญ่สำหรับการเมืองมาเลเซียเลยทีเดียว หากสุดท้ายแล้ว อันวาร์ กับกลุ่ม บีเอ็น ซึ่งเป็นคู่แค้นกันมานานสามารถจับมือเป็นพันธมิตรกันได้
ที่มา : รอยเตอร์