รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ หารือซัมมิตครั้งแรกร่วมกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่กรุงเทพฯ วานนี้ (17 พ.ย.) แสดงความวิตกในหลายเรื่องทั้งทะเลจีนตะวันออกที่มีหมู่เกาะพิพาทเซ็งกากุตั้งอยู่ รวมไปถึงประเด็นความมั่นคงภายในภูมิภาคที่มีความตึงเครียดมากขึ้นทั้งไต้หวัน เกาหลีเหนือ เกิดขึ้น 1 วันก่อนเปียงยางยิงมิสไซล์พิสัยข้ามทวีป ICBM เมื่อเวลา 10.14 น.วันนี้ (18) และตกลงภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของญี่ปุ่น เมื่อเวลาราว 11.23 น. เชื่อพิสัยทำการครอบคลุมไปไกลจนถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (17 พ.ย.) ว่า การประชุมซัมมิตญี่ปุ่น-จีนครั้งสำคัญเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่การประชุมนอกรอบซัมมิตเอเปกในกรุงเทพฯ ระหว่างนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง
โดยในรายงานที่ออกมาจากสื่อทางการจีน CCTV พบว่า สีกล่าวกับคิชิดะ ว่า จีนและญี่ปุ่นสมควรทำให้มีความเชื่อใจเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงหลายด้านของความร่วมมือและการรวมตัวในระดับภูมิภาค ต่อต้านต่อความเป็นปรปักษ์และการเผชิญหน้า
ความตึงเครียดภายในภูมิภาคเพิ่มขึ้นในประเด็นไต้หวัน เกาหลีเหนือ ญี่ปุ่นได้ทำการประท้วงทางการทูตเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมาหลังจากมิสไซล์ 5 ลูก ที่ยิงโดยกองทัพจีน PLA ระหว่างการฝึกซ้อมปิดล้อมไต้หวันเกิดตกลงภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของญี่ปุ่น และใกล้กับหมู่เกาะพิพาทเซ็งกากุ หรือชื่อในภาษาจีน หมู่เกาะเตียวหยู
คิชิดะแถลงต่อนักข่าวหลังออกมาจากการประชุมซัมมิตว่า “ผมขอย้ำอีกครั้งถึงความสำคัญสันติภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน” แต่ไม่เปิดเผยว่าฝ่ายจีนกล่าวต่อการแสดงความเห็นในเรื่องนี้เช่นไร
เขายังแถลงต่อว่า “ผมได้แสดงความวิตกอย่างสุดซึ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ทะเลตะวันออก รวมถึงหมู่เกาะเซ็งกากุ และการปรากฏตัวของจีนทางการทหาร เป็นต้นว่า การยิงมิสไซล์
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสี ของจีนชี้แจงว่า ประเด็นไต้หวันจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเหมาะสม และมีศรัทธาจากการที่ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับรากฐานทางการเมืองและความเชื่อมั่นพื้นฐานในความสัมพันธ์ญี่ปุ่นและจีน
สีกล่าวต่อว่า “จีนไม่เข้าแทรกแซงกิจการภายในของชาติอื่น และไม่ยอมรับการเข้าแทรกแซงใดๆ ต่อกิจการภายในของจีนภายใต้ข้ออ้างใดๆ”
กระทรวงต่างประเทศไต้หวันออกมาแสดงความขอบคุณต่อความวิตกของญี่ปุ่น
NHK รายงานเพิ่มเติมว่า สีกำลังยิ้มแย้มระหว่างที่จับมือร่วมกับคิชิดะ ให้นักข่าวถ่ายภาพในวันพฤหัสบดี (17) ที่กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เขารู้สึกยินดีมากที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีคิชิดะอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก
และเสริมต่อว่า ทั้งญี่ปุ่นและจีนที่ตั้งอยู่ใกล้กันและเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียและในโลกมีผลประโยชน์ร่วมกันในหลายด้านยังมีที่ว่างในการเติบโตทางความร่วมมือ
สีกล่าวต่อไปถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และจะไม่มีวันเปลี่ยนในอนาคต
การพบกันระหว่าง 2 ชาติผู้นำในเอเชียเกิดขึ้นท่ามกลางการยิงมิสไซล์เกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี (17) และวันศุกร์ (18) ซึ่งในประเด็นเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือนั้น CNA รายงานว่า คิชิดะกล่าวว่า
“ในด้านเกาหลีเหนือ ผมแสดงความเห็นถึงความคาดหวังของฝ่ายเราคือจีนจะแสดงบทบาทสำคัญ รวมถึงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ร่วมประชุมซัมมิตกับประธานาธิบดีจีนวันจันทร์ (14) บนเกาะบาหลี อินโดนีเซีย เปิดเผยว่า เขาเชื่อมั่นว่า จีนไม่ต้องการให้รัฐบาลประธานาธิบดี คิม จองอึน เพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นในอนาคต
NHK รายงานว่า เลขา ครม.ญี่ปุ่น มัตซึโนะ ฮิโรกาซุ (Matsuno Hirokazu) แถลงวันศุกร์ (18) ว่า เกาหลีเหนือยิงมิสไซล์ที่คล้ายกับมิสไซล์พิสัยข้ามทวีป ICBM เมื่อเวลาราว 10.14 น.ของวันนี้ (18) และตกลงภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของญี่ปุ่นเมื่อเวลาราว 11.23 น.
มิสไซล์ ICBM เกาหลีเหนือบินระยะทางไกล 1,000 กิโลเมตร และมีระดับเพดานการบินที่ 6,000 กิโลเมตร มัตซึโนะแถลงว่า ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นต่อเครื่องบิน หรือเรือในญี่ปุ่น และอีกทั้งโตเกียวไม่ได้ยิงสกัดมิสไซล์เกาหลีเหนือ
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ฮามาดะ ยาซูกาซุ (Hamada Yasukazu) เปิดเผยว่า มิสไซล์เปียงยางใช้เวลาเดินทางราว 69 นาที และเมื่อคำนวณจะพบว่ามิสไซล์ลูกดังกล่าวมีพิสัยทำการไกล 15,000 กิโลเมตร หรือไกลกว่านั้น ส่งผลทำให้แผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ อยู่ภายใต้พิสัยทำการมิสไซล์ลูกนี้ อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของหัวรบมิสไซล์จะส่งผลต่อพิสัยทำการของจรวด