เอเจนซีส์/เอพี - องค์การนาซาปล่อยจรวดอาร์ทิมิส 1 ขึ้นจากศูนย์วกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดาเวลา 01.47 น.วันพุธ (16 พ.ย.) ไปดวงจันทร์สำเร็จหลังเคยเลื่อนไปก่อนหน้า เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี หลังเคยส่งมนุษย์อวกาศลงบนดวงจันทร์ จรวด SLS คาดจะถึงดวงจันทร์ในวันจันทร์หน้า (21 พ.ย.)
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (16 พ.ย.) ว่า หลังจากที่การปล่อยจรวดอาร์ทิมิส 1 (Arthemis 1 rocket) ขึ้นสู่ท้องฟ้าประสบความสำเร็จแล้ว เทรนต์ แอนนิส (Trent Annis) สมาชิกทีมสีแดงซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญแก้ปัญหาขณะปล่อยจรวดซึ่งเป็นทีมที่นาซาตั้งขึ้นมาใหม่หลังเกิดปัญหาการรั่วขึ้นในการปล่อยครั้งก่อนๆ แสดงความยินดีต่อความสำเร็จว่า ทีมกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะประจำการ
“จรวดมันมีชีวิต มันส่งเสียงดัง มันน่ากลัวมาก มันทำให้รู้สึกวิตกมากแต่พวกเราปรากฏตัวขึ้นในวันนี้ เมื่อพวกเรากำลังเดินขึ้นบันได พวกเราพร้อมที่จะปฏิบัติการ”
ทั้งนี้ จรวด SLS ซึ่งเป็นจรวดในโครงการสำรวจดวงจันทร์อาร์ทิมิส 1 แบบไร้มนุษย์นั้นมีความสูง 98 เมตร ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวดศูนย์อวกาศเคนเนดีที่รัฐฟลอริดาเมื่อเวลา 01.47 น.ตามเวลาท้องถิ่น ตามฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ขึ้นสู่ฟ้าด้านบน โดยเป็นการเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
บริเวณบนสุดของจรวด SLS คือกระสวยอวกาศโอเรียน (Orion) ที่จะแยกตัวออกไปจากจรวดหลังเดินทางถึงอวกาศแล้ว ทั้งนี้กระสวยอวกาศโอเรียนถูกออกแบบสำหรับนำลูกเรือนักบินอวกาศขึ้นไป แต่ทว่าในครั้งนี้ด้านในล้วนเป็นสิ่งไม่มีชีวิตประเภทต่างๆ รวมไปถึงหุ่นคล้ายคนเพื่อรวบรวมข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยเหลือลูกเรือในอนาคต
เป็นที่คาดการณ์ว่า กระสวยอวกาศโอเรียนจะเดินทางไปถึงดวงจันทร์ในวันจันทร์หน้า (21 พ.ย.) ก่อนที่จะเข้าสู่การโคจรรอบดวงจันทร์ในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย.
โอเรียนจะเดินทางเข้าใกล้พื้นผิวดวงจันทร์ในระยะ 60 ไมล์ระหว่างการบินผ่านระยะใกล้สัปดาห์หน้า โดยกระสวยอวกาศจะเดินทางร่วม 2 ล้านกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่ไกลกว่ายานอวกาศใดๆ ที่เคยออกแบบมาสำหรับการเดินทางด้วยมนุษย์ และจะเดินทางกลับโลกหลังสิ้นสุดการโคจรรอบดวงจันทร์เสร็จสิ้นการเดินทางทั้งหมด 25.5 วัน
โดยกระสวยอวกาศโอเรียนจะตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งเมืองซานดิเอโก ในวันที่ 11 ธ.ค. โดยจะมีทีมเก็บกู้รออยู่เพื่อดึงมันกลับขึ้นสู่ฝั่งได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ กำหนดการเดินทางมนุษย์อวกาศสู่วงโคจรดวงจันทร์ของนาซาจะเกิดขึ้นในปี 2024
เอพีชี้ว่า นาซาคาดว่าจะมีผู้เข้าชมการปล่อยร่วม 15,000 คนที่ศูนย์ปล่อยจรวด และอีกจำนวนมากตามชายหาดและถนนด้านนอกเพื่อเป็นประจักษ์พยานการกลับคืนสู่ดวงจันทร์อีกครั้งของสหรัฐฯ ในโปรเจกต์อาร์ทิมิส ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ต่อจากโปรเจกต์อพอลโลที่เมื่อครั้งนักบินอวกาศ 12 คน เคยเดินทางไปดวงจันทร์ และได้มีโอกาสสำรวจบนพื้นผิวดวงจันทร์ระหว่างปี 1969 ถึงปี 1972