รอยเตอร์/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ แถลงวันอาทิตย์ (13 พ.ย.) ที่กรุงพนมเปญ ว่า ชาติตะวันตกกำลังเพิ่มกำลังทางทหารขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อต้องการควบคุมผลประโยชน์ของรัสเซียและควบคุมจีน เป็นคำแถลงที่ออกมาก่อนการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้นำในการประชุม G-20 ที่อินโดนีเซีย
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (13 พ.ย.) ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ จะเป็นผู้แทนคณะรัสเซียร่วมการประชุมซัมมิตเป็นครั้งแรกหลังจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ต้นปี เกิดขึ้นหลังเครมลินออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน นั้นมีตารางงานแน่นเอี้ยดจนไม่สามารถเข้าร่วมได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อประเด็นยูเครนจะเป็นประเด็นใหญ่สำหรับบรรดาผู้นำชาติตะวันตกจะเผชิญหน้ากับรัสเซีย และผลักดันจีนหรืออินเดียให้ออกมาประณาม “รัสเซีย”
ในการแถลงข่าวที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา วันอาทิตย์ (13) ภายในงานการประชุมอาเซียนลาฟรอฟโจมตีวอชิงตันต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ภายในภูมิภาคที่ทั้งอเมริกาและรัสเซียมองว่าเป็นพื้นที่สนามรบสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
“สหรัฐฯ และพันธมิตรนาโต้พยายามที่จะควบคุมพื้นที่นี้ไว้” ลาฟรอฟกล่าวกับนักข่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน พยายามต้องการข้ามโครงสร้างองค์รวมเพื่อความร่วมมือทางภูมิภาคและจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มกำลังทางทหารของภูมิภาคแห่งนี้ พร้อมด้วยเป้าหมายที่เด่นชัดต่อการควบคุมจีนและผลประโยชน์ของรัสเซียในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศต่อบรรดาผู้นำชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า วอชิงตันมีพันธะสร้างอินโดแปซิฟิกให้เสรีและเปิดกว้าง มั่นคงและมั่งคั่ง ยืดหยุ่นและมั่นคง ในขณะที่เขาแสดงกรอบการทำงานความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบครอบคลุม csp (Comprehensive Strategic Partnership) ระหว่างสหรัฐฯ และภูมิภาค
รอยเตอร์รายงานว่า ทั้งสหรัฐฯ และรัสเซียไม่ได้ร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มอาเซียนที่มีทั้งหมด 10 ชาติ แต่ทว่ามีผู้นำโลกจำนวนหนึ่งเป็นต้นว่า แคนาดา นิวซีแลนด์ เข้าร่วมการประชุมอาเซียนที่กรุงพนมเปญ ก่อนการประชุมซัมมิต G-20 ที่บาหลี อินโดนีเซีย สัปดาห์หน้า
รัสเซียแสวงหาที่จะสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากขึ้นกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทางเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงหลังจากที่รัสเซียถูกโลกตะวันตกสั่งคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้ที่รัสเซียบุกยูเครน
ปูตินมองรัสเซียและจีนว่าเป็นเสมือนผู้นำโลกที่ต่อต้านตะวันตกในขณะที่สหรัฐฯ มองทั้งสองประเทศนี้ว่าเป็นภัยคุกคามหลักระดับโลก
สำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีรายงานว่า สำหรับการหารือร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย ร่วมกับฝ่ายรัสเซียนั้นเกี่ยวข้องในด้านความร่วมมือที่มีความสำคัญ รวมไปถึงประเด็นระดับโลกและระดับภูมิภาค โดยพื้นฐานอยู่ในบริบทของการประชุมเอเปก (APEC) ที่กรุงเทพฯ กำลังจะเป็นเจ้าภาพ