ตำรวจอังกฤษจับกุมผู้ประท้วงซึ่งพยายาม “ปาไข่” ใส่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ระหว่างที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่เมืองยอร์ก (York) ทางตอนเหนือของอังกฤษเมื่อวานนี้ (9 พ.ย.)
เหตุระทึกดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลากำลังทรงมีพระปฏิสันถารกับประชาชนที่มารอเฝ้าฯ โดยมีไข่ 3 ลูกถูกปาเข้ามาจนเกือบจะถูกพระองค์ ซึ่งทำให้ทีมอารักขาต้องรีบคุ้มกันทั้ง 2 พระองค์ออกไป
จากคลิปเหตุการณ์จะได้ยินเสียงชายผู้ประท้วงร้องตะโกนขึ้นว่า “ประเทศนี้ถูกสร้างขึ้นบนเลือดของทาส” และ “ไม่ใช่กษัตริย์ของผม” ก่อนที่เขาจะถูกตำรวจหลายนายเข้าควบคุมตัว
ผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ชายผู้ประท้วงคนนี้ส่งเสียงโห่ไล่กษัตริย์และราชินีอังกฤษ ก่อนที่จะปาไข่ใส่ทั้ง 2 พระองค์ ขณะที่ประชาชนซึ่งเฝ้ารอรับเสด็จฯ อยู่ที่บริเวณ Micklegate Bar ต่างถวายกำลังพระทัยด้วยการร้องเพลง “God save the King” และด่าทอชายผู้ประท้วงว่า “ทำตัวน่าละอาย”
ตำรวจประจำเทศมณฑลนอร์ธยอร์กเชอร์แถลงยืนยันว่า “ชายวัย 23 ปี ถูกจับฐานก่อกวนความสงบเรียบร้อย และยังคงถูกตำรวจควบคุมตัวอยู่”
สื่ออังกฤษรายงานว่า ชายคนนี้เป็นอดีตผู้สมัครพรรคกรีน (Green Party) และเป็นนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม Extinction Rebellion
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลาได้เสด็จฯ ไปที่เมืองยอร์ก เพื่อทรงเปิดพระบรมรูปสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ มหาวิหารยอร์ก (York Minster) ซึ่งถือเป็นพระบรมรูปแห่งแรกที่ได้รับการประดิษฐานภายหลังจากที่เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ราชวงศ์อังกฤษเผชิญกระแสเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มนักเคลื่อนไหวสายรีพับลิกันในประเทศเครือจักรภพที่ต้องการให้สถาบันกษัตริย์ออกมา “ขออภัย” เรื่องการค้าทาสและการล่าอาณานิคมในอดีต
เมื่อต้นปีนี้ เจ้าชายวิลเลียมซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ ก็ถูกกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านประวัติศาสตร์การใช้ทาสออกมาประท้วงอย่างหนัก ระหว่างเสด็จฯ เยือนอดีตดินแดนอาณานิคมอังกฤษ 3 แห่งในแถบแคริบเบียน ได้แก่ เบลีซ จาเมกา และบาฮามาส ขณะที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชอนุชาในสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ก็เคยเผชิญกระแสประท้วงไม่ต่างกัน จนต้องยกเลิกหมายเสด็จฯ เยือนเกรนาดามาแล้ว
ที่มา : เอเอฟพี