นักการเมืองรัสเซียดูจะพึงพอใจต่อผลเบื้องต้นของศึกเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อวันพุธ(9 พ.ย.) ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นความอับอายและก่อความเสียหายแก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต อย่างไรก็ตาม ทางเครมลินคาดหมายว่าคงไม่มีอะไรดีขึ้นในความสัมพันธ์อันสั่นคลอนระหว่างวอชิงตันกับมอสโก ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย ยินดีปรีดาที่เพโลซีจะต้องหลุดจากตำแหน่งประธานสภาคองเกรสของสหรัฐฯ
ศึกเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดในรัสเซีย ซึ่งต้องการให้วอชิงตันระงับโครงการช่วยเหลือทางการเงินและทางการทหารที่มอบแก่ยูเครน ชาวรัสเซียที่ฝักใฝ่เครมลินบางส่วนหวังรีพับลิกันประสบชัยชนะ ซึ่งนั่นอาจหมายความว่า ไบเดน จะเจองานยากลำบากมากขึ้น และต้องใช้เวลานานขึ้นในการออกแรงผลักดันอนุมัติแพกเกจช่วยเหลือด้านการทหารในอนาคต
พวกสายเหยี่ยวในเครมลินยังหวังด้วยว่าศึกเลือกตั้งจะก่อความแตกแยกทางการเมืองในสหรัฐฯ หนักหน่วงยิ่งขึ้น สร้างความอ่อนแอแก่พื้นฐานของประเทศที่พวกเขามองว่าเป็นคู่อริสำคัญในทางภูมิรัฐศาสตร์ ท่ามกลางความเชื่อที่ว่ายุคแห่งการครองโลกของอเมริกาใกล้สิ้นสุดลงแล้ว
ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นพบว่า รีพับลิกันคว้าชัยมาได้พอสมควร แต่การควบคุมสภาคองเกรสและอนาคตวาระนโยบายต่างๆ ของไบเดนยังคงไม่มีความแน่นอน "ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ กำลังยืนยันว่าโลกที่คุ้นเคยของคุณปู่ไบเดน กำลังปลิวหายไป" ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียเขียนบนเทเลแกรม
เมดเวเดฟ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เวลานี้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ยาเชสสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย แสดงความยินดีปรีดาในสิ่งที่เขาบอกว่าเป็นความพ่ายแพ้ของเดโมแครต ที่สูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ "พวกผู้สนับสนุนของไบเดนกำลังประสบความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้ง การเดินทางเยือนไต้หวันและอาร์เมเนียของแนนซี เพโลซี จบลงด้วยการสูญเสียเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร"
รัสเซีย ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ประกาศความเป็นหุ้นส่วนกับจีน "แบบไร้ขีดจำกัด" ประณามการเดินทางเยือนไต้หวันของเพโลซี ในเดือนสิงหาคม และไม่พอใจที่เธอเดินทางเยือนอาร์เมเนีย พันธมิตรใกล้ชิดดั้งเดิมของรัสเซียในเดือนต่อมา
กระนั้นทางเครมลินมองว่าคงไม่พบเห็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงนัก ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร พร้อมปฏิเสธคำกล่าวหาที่ปรากฏอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับของสหรัฐฯ ที่ว่ารัสเซียพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งอเมริกา
"ศึกเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ แต่ไม่ได้มีความสำคัญมากกว่าปกติในความสัมพันธ์ระหว่างเรา ทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินกล่าว "การเลือกตั้งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อแท้ใดๆ ความสัมพันธ์จะยังคงเลวร้ายอยู่ดี" เปสคอฟระบุ
(ที่มา : รอยเตอร์)