โอเอลกซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (7 พ.ย.) ว่า ยูเครนได้รับระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS จากสหรัฐฯ ชุดแรกแล้ว ซึ่งจะช่วยเสริมความเข้มแข็งแก่กองกำลังเคียฟเป็นอย่างมาก ในขณะที่รัสเซียระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานทั่วยูเครน
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าสหรัฐฯ กำลังเร่งส่งมอบระบบ NASAMS ล้ำสมัยแก่ยูเครน หลังจากยูเครนถูกรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธโจมตีไม่หยุด
"ดูซิ อะไรอยู่ที่นี่แล้ว? ระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS และ Aspide ถูกส่งมาถึงยูเครนแล้ว!" เรซนิคอฟเขียนบนเทเลแกรม พร้อมกล่าวขอบคุณนอร์เวย์ สเปน และสหรัฐฯ สำหรับการส่งมอบ "อาวุธนี้จะช่วยเสริมความเข้มแข็งอย่างมากแก่กองทัพยูเครน และจะทำให้ท้องฟ้าของเรามีความปลอดภัยมากขึ้น"
เรซนิคอฟอ้างถึงระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นผิวสู่อากาศล้ำสมัย (NASAMS) ของสหรัฐฯ ระบบป้องกันภัยทางอากาศแอสไพด์ (Aspide) ของอิตาลี เพิ่มเติมจากอาวุธต่างๆ ที่เยอรมนีจัดหาให้ "เราจะเดินหน้าสอยร่วงเป้าหมายศัตรูที่โจมตีเรา ขอบคุณพันธมิตรของเรา นอร์เวย์ และสหรัฐฯ"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องไปยังพวกผู้นำ 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี7) สำหรับขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในด้านป้องกันภัยทางอากาศ หลังจากถูกรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครนระลอกแล้วระลอกเล่า
รอยัลยูไนเต็ดเซอร์วิส (Royal United Services Institute) สถาบันเพื่อการกลาโหมและความมั่นคงศึกษา ที่มีสำนักงานในลอนดอน ระบุในรายงานที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (7 พ.ย.) ว่ายูเครนต้องการยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยและกระสุนของทางตะวันตกเพื่อปกป้องตนเองจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน
การโจมตีต่อเนื่องหลายสัปดาห์ของรัสเซีย ก่อไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างและจำเป็นต้องมีการจำกัดการใช้พลังงานทั่วยูเครน
"สถานการณ์ในระบบไฟฟ้าตึงเครียดมาก เราขอให้ชาวบ้านทุกคนในภูมิภาคสนับสนุนพนักงานด้านพลังงาน ที่กำลังต่อสู้ในแนวหน้าทางพลังงานเพื่อการใช้ จงใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด" เจ้าหน้าที่ของเมืองต่างๆ ระบุในถ้อยแถลง
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเซเลนสกี เปิดเผยในวันจันทร์ (7 พ.ย.) ว่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รัสเซียยิงขีปนาวุธ 4 ลูก และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมากกว่า 24 เที่ยวทั่วยูเครน
คีรีโล ทีโมเชนโก รองหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากกระสุนปืนใหญ่ของรัสเซียในแคว้นซาปอริซเซีย และอีกรายเสียชีวิตในแคว้นซูมี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
การโจมตีดังกล่าวมีขึ้น 1 วัน หลังจากพวกเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย ในแคว้นเคียร์ซอนในยูเครน บอกว่าการโจมตีของกองกำลังยูเครน ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในเมืองเอกของแคว้นที่มีชื่อเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (7 พ.ย.) เจ้าหน้าที่เผยว่าสามารถกู้คืนไฟฟ้าภายในเมืองแห่งนี้คืนมาได้แล้ว และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ทั้งหมดกลับมาใช้งานได้ตามปกติ หลังปฏิบัติการโจมตีรุกคืบของกองกำลังยูเครนล่าช้าลงไป
ในขณะที่ยูเครนพยายามยกระดับปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ทางภาคใต้ของประเทศ กองกำลังผู้รุกรานรัสเซียในเคียร์ซอนประกาศเปลี่ยนเมืองแห่งนี้เป็นป้อมปราการหลักของการต้านทาน
เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ที่พวกเจ้าหน้าที่ฝักใฝ่รัสเซียทำการอพยพพลเรือนออกจากแคว้นเคียร์ซอน พาตัวลึกเข้าไปในดินแดนที่อยู่ภายใต้การยีดครองของรัสเซีย รับมือกับการรุกคืบของยูเครน ความเคลื่อนไหวที่เคียฟตราหน้าว่าเท่ากับเป็นการบังคับเนรเทศประชาชน
รัสเซียกำลังใช้กฎอัยการศึกและจำกัดการติดต่อสื่อสารทั่วแคว้นเคีร์ซอน และแคว้นอื่นๆ อีก 3 แคว้นที่พวกเขากล่าวอ้างผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน อย่างไรก็ตาม กองกำลังมอสโกยังไม่สามารถควบคุมดินแดนเหล่านี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
(ที่มา : รอยเตอร์)