ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียลงนามบังคับใช้กฎหมายใหม่ ซึ่งอนุญาตให้มีการเกณฑ์พลเมืองที่มีประวัติก่อคดีอุกฉกรรจ์ เช่น ฆาตกรรม ปล้นชิงทรัพย์ และค้ายาเสพติด ไปเป็นทหารกองหนุนร่วมรบในยูเครนได้
กฎหมายฉบับนี้จะทำให้นักโทษที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ หรือถูกศาลตัดสินคุมประพฤติ เข้าข่ายถูกเกณฑ์เป็นทหารได้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้รัสเซียสามารถเกณฑ์พลเมืองเข้าเป็นกำลังพลสำรองได้อีกนับแสนคน
อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ยังคงยกเว้นการเกณฑ์ทหารสำหรับอดีตนักโทษคดีอาญาบางประเภท ได้แก่ คดีล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ เป็นกบฏ เป็นจารชน และก่อการร้าย รวมถึงนักโทษที่เคยพยายามลอบสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ จี้เครื่องบิน ทำกิจกรรมหัวรุนแรง และพัวพันการจัดหาวัสดุนิวเคลียร์และสารกัมมันตรังสีอย่างผิดกฎหมาย
ปูติน ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (4 พ.ย.) ว่ารัฐบาลเครมลินได้สั่งเกณฑ์ทหารกองหนุนอีก 18,000 นาย เพื่อส่งไปเข้าร่วมปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน โดยเพิ่มขึ้นจากตัวเลข 300,000 นายที่กำหนดเอาไว้เดิม
ก่อนหน้านั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ประกาศระงับการเรียกระดมพลบางส่วน (partial mobilization) เนื่องจากกองทัพมีทหารเกณฑ์ครบ 300,000 นายตามความต้องการแล้ว อย่างไรก็ดี การระดมพลจะถือว่าสิ้นสุดอย่างเป็นทางการก็ต่อเมื่อประธานาธิบดี ปูติน ลงนามในกฤษฎีกา ซึ่งระหว่างนี้ผู้นำรัสเซียยังคง “สงวนสิทธิ” ที่จะเรียกเกณฑ์กำลังพลสำรองเพิ่มได้ในอนาคต
ที่มา : CNN