ทางการอินเดียมีคำสั่งปิดโรงเรียนประถมในกรุงนิวเดลี ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้ หลังสถานการณ์ฝุ่นละอองและหมอกควันส่งผลให้ค่ามลพิษในอากาศของเมืองหลวงอินเดียพุ่งสูงจนแตะขีดอันตราย
ควันจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงไอเสียจากรถยนต์และควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้กรุงนิวเดลีซึ่งมีประชากรราว 20 ล้านคน ต้องเผชิญกับปัญหาหมอกควันพิษปกคลุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นฤดูหนาว
เมื่อวันศุกร์ (4) ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงนิวเดลีพุ่งสูงเกินมาตรฐานสูงสุดที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดเกือบ 25 เท่าตัว ตามข้อมูลจากบริษัทตรวจวัดคุณภาพอากาศระดับโลก IQAir
อาร์วินด์ เกจริวัล มุขมนตรีนิวเดลี ซึ่งเผชิญเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากทั้งชาวบ้านและนักการเมืองฝ่ายค้านว่า ล้มเหลวในการจัดการปัญหาหมอกควันพิษ ได้ประกาศให้โรงเรียนประถมทั่วเมืองหลวงหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวตั้งแต่วันเสาร์ (5) “จนกว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น” พร้อมย้ำว่า “เด็กๆ จะต้องไม่ได้รับผลกระทบ (จากมลพิษ) ในทุกๆ กรณี”
กรุงนิวเดลีนั้นติดอันดับเมืองที่มีค่ามลพิษสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเมื่อวานนี้ (4) ก็เป็นอีกครั้งที่เมืองหลวงอินเดียรั้งแชมป์เมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดตามการจัดอันดับของ IQAir
ผลการศึกษาที่เผยแพร่โดยวารสารการแพทย์แลนซิต (Lancet) เมื่อปี 2020 พบว่ามลพิษในอากาศเป็นสาเหตุให้ชาวอินเดียเสียชีวิตมากถึง 1.67 ล้านคนในปีก่อนหน้า โดยในจำนวนนี้เป็นชาวเมืองหลวงเกือบ 17,500 คน
อันที่จริงแล้วอินเดียมีการออกมาตรการเพื่อช่วยลดมลพิษในอากาศมาอย่างต่อเนื่อง เช่นให้ระงับโครงการก่อสร้างต่างๆ เป็นต้น แต่ก็แทบไม่ได้ผลอะไร
เกษตรกรหลายแสนคนทั่วภูมิภาคอินเดียเหนือจะมีการเผาตอซังข้าวในช่วงต้นฤดูหนาวทุกปี เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกข้าวในฤดูกาลใหม่ ซึ่งวิถีปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงได้ยากนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กรุงนิวเดลีต้องเผชิญกับวิกฤตหมอกควันพิษอยู่เป็นประจำทุกปี
ที่มา : เอเอฟพี