เอเจนซีส์/เอพี - ริยาดเปิดเผยข่าวกรองล่าสุดต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่า มีความเป็นไปได้ที่เตหะรานอาจเตรียมลงมือโจมตีในอนาคตอันใกล้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดขึ้นเร็วสุดภายใน 48 ชั่วโมง แต่อิหร่านออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง อ้างพวกตะวันตกรวมหัวไซออนนิส (อิสราเอล) ปล่อยข่าวบิดเบือนป้ายสี วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานล่าสุดวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ระบุภัยคุกคามบรรเทาลงแต่การโจมตียังคงอยู่
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานวันพุธ (2 พ.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ตอบสนองต่อรายงานภัยคุกคามจากอิหร่านที่มีต่อซาอุดีอาระเบีย และจะไม่ลังเลที่จะตอบโต้หากจำเป็น
สภาความมั่นคงสหรัฐฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์วันอังคาร (2) มีใจความว่า “พวกเราวิตกเกี่ยวกับภาพภัยคุกคาม และเรายังคงติดต่ออย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางการทหาร และข่าวกรองร่วมกับฝ่ายซาอุฯ”
และแถลงการณ์ยืนยันว่า “พวกเราจะไม่ลังเลที่จะลงมือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเราและพันธมิตรในภูมิภาค”
ทั้งนี้ วอลล์สตรีทเจอร์นัลเป็นสื่อแรกที่ออกมารายงาน ริยาดได้แจ้งข่าวกรองลับกับสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นของวันอังคาร (1)
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน นาสเซอร์ คานานี (Nasser Kanani) ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงรายงานดังกล่าวในวันพุธ (2) โดยเรียกว่า เป็นสิ่งที่ไม่มีมูลโดยสิ้นเชิงซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต้องการป้ายสีความสัมพันธ์อิหร่านที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้าน
ในแถลงการณ์ระบุว่า “อิหร่านพิจารณาเริ่มและพัฒนาเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคนั้นสามารถเป็นไปได้ผ่านทางความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับประเทศเพื่อนบ้านและติดตามมันอย่างจริงจัง”
อิหร่านเคยออกมาเปิดเผยโดยไม่แสดงหลักฐานว่า ซาอุฯ และประเทศอริอื่นๆ อยู่เบื้องหลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเตหะรานที่กำลังดำเนินอยู่ หลังเกิดมาตั้งแต่กลางเดือนกันยายน
เอพีชี้ว่า การวิตกสูงสุดเกี่ยวกับการโจมตีซาอุฯ เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ออกมาวิจารณ์เตหะรานถึงการกวาดล้างการประท้วงที่แพร่หลาย และรวมไปถึงการประณามของเขาต่อกรณีที่เตหะรานส่งโดรนจำนวนหลายร้อยตัวและรวมไปถึงเทคนิคการสนับสนุนให้ “รัสเซีย” สำหรับใช้ในการทำสงครามกับยูเครน
“รัฐบาลตะวันตก และรัฐบาลไซออนนิสได้เผยแพร่ข่าวอคติที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างอารมณ์ที่เป็นลบต่ออิหร่าน และทำลายแนวโน้มแง่บวกในปัจจุบันกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค” รายงานจากแถลงการณ์สำนักงานการทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติที่ส่งไปให้เอพี
เอพีชี้ว่า หนึ่งในเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ยืนยันรายงานการแจ้งข่าวกรองลับจากซาอุฯ นั้นเปิดเผยว่า ภัยคุกคามนี้อาจจะสามารถเกิดได้เร็วสุดภายใน 48 ชั่วโมง แต่ทว่าไม่มีที่ตั้งทางการทูตใดของสหรัฐฯ ออกคำเตือนหรือคำแนะนำแนวทางปฏิบัติสำหรับชาวอเมริกันในซาอุฯ หรือที่ใดในตะวันออกกลางที่ตั้งบนพื้นฐานจากการแชร์ข่าวกรองลับร่วมครั้งนี้
โฆษกเพนตากอน พลจัตวาแพต ไรเดอร์ (Pat Ryder) ยืนยันว่า กองทัพสหรัฐฯ รับทราบข่าวนี้ โดยชี้แจงว่า
“แต่เหมือนกับที่ทางเราเคยกล่าวก่อนหน้า และผมจะขอกล่าวซ้ำอีกครั้งว่า ทางเราจะขอสงวนสิทธิในการปกป้องและป้องกันตัวเองไม่ว่ากองกำลังเราจะอยู่ที่ใด ไม่ว่าจะอยู่ในอิรักหรือที่อื่นใด”
วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเพิ่มเติมล่าสุดวันพฤหัสบดี (3) ว่า ภัยคุกคามการโจมตีจากอิหร่านไปยังซาอุฯ และประเทศอาหรับอื่นภายในภูมิภาคนั้นบรรเทาลงจากครั้งแรกที่ได้รับคำเตือน แต่ภัยการคุกคามยังคงอยู่ยังไม่ผ่านไป อ้างอิงจากทั้งแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ประเทศอ่าวเปอร์เซีย
โดยในการแชร์ข่าวกรองจากซาอุฯ ในตอนแรกนั้นชี้ไปว่า เตหะรานอาจมีเป้าหมายเพื่อโจมตีซาอุฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจทั่วโลกออกไปจากข่าวการประท้วงอิหร่าน ซึ่งก่อนหน้าเมื่อต้นสัปดาห์นี้แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ประเทศอ่าวอาหรับเปิดเผยว่า "อิหร่านพร้อมที่จะโจมตี"
เอพีกล่าวว่า ทั้งนี้ก่อนหน้าความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับริยาดนั้นแย่ลงหลังริยาดนำโอเปกประกาศเดือนตุลาคมจะทำการปรับลดการผลิตลงเหลือแค่ 2 ล้านบาร์เรลต่อเดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
การประกาศสร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลไบเดน โดยทำเนียบขาวประกาศที่จะพิจารณาความสัมพันธ์กับซาอุฯ จากเหตุผลที่ว่า ความเคลื่อนไหวลดกำลังการผลิตจะเป็นเสมือนการช่วยรัสเซียที่กำลังอยู่ในระหว่างการรบกับยูเครนย่างสู่เดือนที่ 9