แหล่งข่าววงในเผยเทสลา (Tesla) เตรียมเดินเครื่องผลิตรถกระบะไฟฟ้า “ไซเบอร์ทรัค” (Cybertruck) แบบเต็มสูบในช่วงปลายปี 2023 ซึ่งล่าช้ากว่าเป้าหมายที่ อีลอน มัสก์ เคยประกาศเอาไว้เมื่อปี 2019 ราวๆ 2 ปี
เทสลาประกาศเมื่อเดือน ต.ค. ว่าอยู่ระหว่างเตรียมโรงงานที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส เพื่อให้พร้อมสำหรับการผลิตกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ “ระยะเริ่มต้น” ในช่วงกลางปี 2023 และ มัสก์ ได้บอกกับบรรดานักวิเคราะห์ทางการเงินในตอนนั้นว่า “เรากำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการผลิตไซเบอร์ทรัค”
การทยอยเพิ่มกำลังผลิตไซเบอร์ทรัคในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าหมายความว่าลูกค้านับแสนๆ คนที่วางเงินมัดจำ 100 ดอลลาร์เพื่อ “จอง” รถกระบะไฟฟ้าของเทสลายังจะต้องรอกันไปอีกอย่างน้อย 1 ปี กว่าจะได้ยลโฉมมัน
แม้ทางบริษัทจะยังไม่ยืนยันรายงานดังกล่าว ทว่ากระแสข่าวที่ออกมาส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาขยับขึ้น 0.4% และปรับตัวสูงขึ้นไปถึง 4.3% ในบางช่วงของวันอังคาร (1 พ.ย.)
ทั้งนี้ เทสลายังไม่ได้ประกาศ “ราคาเสนอขายสุดท้าย” สำหรับไซเบอร์ทรัค อีกทั้งยังไม่ได้เปิดตัวเวอร์ชันที่จะเข้าสู่การผลิตจริง และยังไม่ชี้แจงว่าจะใช้ชุดแบตเตอรี่แบบใดเพื่อสร้างกำลังขับเคลื่อนมหาศาลให้ตัวรถ
เทสลาเคยเสนอ “ราคาเบื้องต้น” ของไซเบอร์ทรัคเอาไว้ที่ต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2019 ทว่าราคายานพาหนะใหม่ๆ ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากหลังจากนั้น ซึ่งเทสลาเองก็ได้ปรับราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นทุกรุ่นเช่นกัน
แหล่งข่าวอีกคนให้ข้อมูลว่า ไซเบอร์ทรัคถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ 4680 ที่มีชื่อเสียงของเทสลา แต่ แซม อาบูเอลซามิด นักวิเคราะห์จาก Guidehouse Insights ตั้งข้อสังเกตว่า เทสลายังไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่ตัวดังกล่าวได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้การผลิตและส่งมอบไซเบอร์ทรัคล่าช้าออกไปเกินกว่าสิ้นปี 2023
มัสก์ ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า แบตเตอรี่ 4680 “ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับไซเบอร์ทรัคหรืออะไรอื่นๆ ทั้งสิ้น” พร้อมยืนยันว่าเทสลาสามารถผลิตแบตเตอรี่รุ่นดังกล่าวได้มากขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยว่ามากขนาดไหน
เทสลาได้เปิดตัวรถกระบะไซเบอร์ทรัครุ่นต้นแบบเมื่อปี 2019 แต่กลับต้องเผชิญความอับอายเมื่อกระจกนิรภัย (armor glass) ที่เทสลาอ้างว่าแข็งแกร่งสุดๆ เกิดการแตกร้าวระหว่างทำการสาธิต จนทำให้ มัสก์ เองถึงกับต้องรุดเดินขึ้นไปบนเวที พร้อมกับพูดติดตลกว่า “ยังต้องพัฒนาต่อไป”
เทสลาประกาศเลื่อนการผลิตไซเบอร์ทรัคมาแล้วถึง 3 หน จากเดิมที่มีแผนจะเริ่มผลิตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 เลื่อนมาเป็นปลายปี 2022 จากนั้นก็เลื่อนอีกครั้งมาเป็นต้นปี 2023 และล่าสุดบอกว่าจะผลิต “ระยะเริ่มต้น” ในช่วงกลางปี 2023
ที่มา : รอยเตอร์