เอเจนซีส์ - มีรายงานออกมาเป็นครั้งแรกว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน หัวเสียระหว่างหารือทางโทรศัพท์ร่วมกับผู้นำยูเครนเมื่อเดือนมิถุนายน หลังพยายามแจกแจงรายละเอียดของอาวุธที่อยากได้เพิ่มระหว่างไบเดนยังพูดเรื่องไฟเขียวแพกเกจ 1 พันล้านดอลลาร์ไม่เสร็จ อื้ออึงผู้นำสหรัฐฯ ขึ้นเสียงใส่ “คนอเมริกันใจกว้างมากที่ช่วยยูเครน ขอเซเลนสกีช่วยแสดงความซาบซึ้งมากกว่านี้”
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานวันจันทร์ (31 ต.ค.) ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด 4 คนเปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐฯ มีอาการควันออกหูถึงขั้นขึ้นเสียงใส่ผู้นำยูเครนระหว่างการโทรศัพท์ร่วมกันเมื่อมิถุนายนล่าสุด
ในรายงานชี้ว่า เป็นเรื่องปกติที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จะหารือทางโทรศัพท์ร่วมกันกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky ) เป็นประจำ แต่ทว่าการหารือครั้งหนึ่งในเดือนมิถุนายนนั้นแตกต่างออกไป เพราะพบว่าไบเดนแสดงอาการไม่พอใจออกมาและขึ้นเสียงในโทรศัพท์ระหว่างการหารือ
เนื้อหามีใจความว่า ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวไม่ทันจบถึงการอนุมัติแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครนครั้งใหม่ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ และเซเลนสกีขัดจังหวะและเริ่มต้นแสดงรายการอาวุธยุทโธปกรณ์และความช่วยเหลือต่างๆ ที่เขาต้องการได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้รับ
แหล่งข่าวระบุว่า ไบเดนไม่พอใจและขึ้นเสียงในโทรศัพท์โดยกล่าวว่า “คนอเมริกันนั้นใจกว้างมาก และรัฐบาลของเขาและกองทัพสหรัฐฯ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยยูเครน และชี้ว่าประธานาธิบดีเซเลนสกีสมควรที่จะแสดงความซาบซึ้งมากกว่านี้”
รายงานระหองระแหงทางโทรศัพท์ที่เปิดเผยเป็นครั้งแรกเกิดขึ้นท่ามกลางข่าวยุทโธปกรณ์สหรัฐฯ บางส่วนถูกส่งขายในตลาดมืด โดย NBC News เปิดเผยวานนี้ (1) ว่า เพนตากอนส่งกำลังทหารสหรัฐฯ เข้ายูเครนเพื่อติดตามยุทโธปกรณ์ที่ส่งเข้าไป
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่ดีขึ้นหลังจากที่ผู้นำยูเครนยอมออกแถลงการณ์เป็นทางการสรรเสริญความมีน้ำใจของสหรัฐฯ ซึ่ง NBC News วิเคราะห์ว่า ความระหองระแหงนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการสนับสนุนยูเครนจากรัฐสภาคองเกรสสหรัฐฯ และประชาชนอเมริกันเริ่มที่จะหมดไป
แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ไบเดนพูดตรงไปตรงมากับประธานาธิบดียูเครนเกี่ยวกับการจัดการปัญหาในช่องทางการทหารอย่างเหมาะสม แต่การสนทนานั้นไม่ถึงขั้นหัวเสียหรือโกรธแต่อย่างใด
ซึ่งก่อนหน้าการโทรศัพทเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. อ้างอิงจากแหล่งข่าว 3 คนชี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯ มีความหงุดหงิดต่อเซเลนสกีมานานหลายสัปดาห์ โดยไบเดน และผู้ช่วยระดับสูงของเขาบางส่วนรู้สึกว่าในขณะที่สหรัฐฯ พยายามอย่างหนักที่จะช่วยเหลือยูเครนรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ แต่ผิดหวังเมื่อพบว่าประธานาธิบดีเซเลนสกีนั้นให้ความสนใจไปที่สิ่งที่ยังไม่ได้รับ
NBC News รายงานว่า ทูตทหารสหรัฐฯ ประจำยูเครน นายพลจัตวา การ์ริค ฮาร์มอน (Brig. Gen. Garrick Harmon) เป็นผู้นำหน่วยทหารสหรัฐฯ เข้ามายูเครนเพื่อติดตามอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกส่งเข้ามา
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า การตรวจสอบเริ่มต้นขึ้นแล้วด้วยความช่วยเหลือจากสำนักงานความร่วมมือกำลังพลกลาโหม (Office of Defense Cooperation personnel) ที่เดินทางกลับเข้าสถานทูตสหรัฐฯ ประจำยูเครน แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว
ซึ่งสหรัฐฯ ได้ทำการตรวจเช็กที่คล้ายกันนี้ก่อนหน้าแต่ต้องหยุดไปหลังรัสเซียส่งกำลังบุกยูเครน
“มีการตรวจเช็กไม่กี่ครั้ง” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพนตากอนกล่าว แต่ทว่าเขาไม่ยอมเปิดเผยที่ตั้งของจุดตรวจ แหล่งข่าวกล่าวว่า “ยูเครนมีความโปร่งใสมากและให้การสนับสนุนการตรวจสอบ”
NBC News กล่าวว่า ทางสื่อไม่ยืนยันตัวเลขทหารสหรัฐฯ ที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจตรวจเช็กอาวุธว่ามีมากน้อยเพียงใด หรือจำนวนการตรวจเช็กเท่าใดแล้วที่เสร็จสิ้น หรือโครงการนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อใด แต่ทว่าหน่วยทหารอเมริกันที่กลับเข้ามานี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สั่งถอนกำลังพลออกไปจากยูเครนเมื่อวันที่ 14 ก.พ หรือราว 10 วันก่อนรัสเซียบุก
การตรวจสอบอาวุธเกิดขึ้นหลังพรรครีพับลิกันและรัสเซียต่างออกมาเปิดเผยว่า มียุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ส่งเข้ายูเครนสุดท้ายนั้นอาจตกอยู่ในตลาดมืด และรัฐบาลไบเดนสัปดาห์ที่แล้วได้เปิดเผยแผนการที่มีเป้าหมายติดตามความช่วยเหลือที่ส่งเข้ายูเครน