บันทึกสายด่วนของตำรวจ พบมีผู้หวังดีโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินถึง 11 สาย แสดงความกังวลเกี่ยวกับเค้ารางของเหตุร้าย หลายชั่วโมงก่อนหน้าเกิดโศกนาฏรรม นักเที่ยวที่ไหลบ่าร่วมปาร์ตีฮาโลวีนที่ย่านท่องราตรีชื่อดังของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เบียดเสียดกันขาดอากาศหายใจเสียชีวิตมากกว่า 150 คน บ่งชี้พวกนักเที่ยวเริ่มมีความกังวลกันตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องแล้ว และพยายามเร่งเร้าให้ตำรวจเข้ามาจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่ากลับถูกเพิกเฉย
ในบันทึกสายด่วนฉุกเฉินที่เผยแพร่โดยตำรวจ พบว่า สายแจ้งเตือนแรกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเหตุการณ์สลด เกิดขึ้นตอนเวลา 18.34 น.ของวันเสาร์ (29 ต.ค.) หรือราวๆ 4 ชั่วโมง ก่อนเกิดโศกนาฏกรรมผู้คนเบียดเสียดกันขาดอากาศหายใจเสียชีวิตจำนวนมาก
ยุน ฮีกึน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ในวันอังคาร (1 พ.ย.) ยอมรับกองกำลังควบคุมฝูงชนในที่เกิดเหตุนั้น "ไม่เพียงพอ" และเผยว่าตำรวจได้รับแจ้งเตือนหลายต่อหลายสายเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ในค่ำคืนที่เกิดโศกนาฏกรรม
กระทรวงมหาดไทย และนายกเทศมนตรีของเมืองก็กล่าวขอโทษเช่นกัน ในขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยชี้มาตรการควบคุมฝูงชนและบริหารการจรจาจรที่เหมาะสมอาจช่วยปกป้อง หรืออย่างน้อยๆ ก็ลดการไหลบ่าของนักเที่ยวได้
ในบันทึกสายด่วนที่เผยแพร่สู่สื่อมวลชน บรรดาผู้หวังดีต่างคาดเดาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยอง "ดูเหมือนว่าอาจมีคนเหยียบกันตาย ด้วยคนจำนวนมากที่ไหลบ่ามาที่นี่ ไม่เหลือเนื้อที่ให้คนลงไปเลย" พลเมืองดีสายแรกกล่าว "ผมเกือบออกมาไม่ได้ มีคนมากเกินไป ดูเหมือนว่าพวกคุณควรมาที่นี่เพื่อควบคุมฝูงชน"
เหตุเบียดเสียดกันจนขาดอากาศหายใจเมื่อคืนวันเสาร์ (29 ต.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 156 ราย จำนวนมากเป็นวัยรุ่นและอายุ 20 ปีเศษๆ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 157 ราย เนื่องด้วยนักเที่ยวไหลบ่ากันเข้าไปในตรอกแคบๆ ในย่านอิแทวอน เพื่อฉลองเทศกาลฮาโลวีน ซึ่งจัดขึ้นโดยแทบปราศจากข้อจำกัดสกัดโควิด-19 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ตำรวจได้รับโทรศัพท์สายด่วนแจ้งเตือนคล้ายกันอีก 10 สาย ก่อนความวุ่นวายจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมอย่างที่กังวล และได้เผยแพร่บันทึกสายด่วนเหล่านี้ทั้งหมดในวันอังคาร (1 พ.ย.)
บันทึกสายด่วนเหล่านี้ยังดูเหมือนเป็นการยืนยันคำบอกเล่าของบรรดาผู้เห็นเหตุการณ์ ที่เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า พวกเขาเห็นตำรวจบางส่วนกำลังสั่งการการจราจรบนถนนสายหลัก แต่มีเจ้าหน้าที่เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ตามตรอกซอกซอย หรือถนนแยกจากถนนใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยฝูงชน
คาดหมายว่ามีนักเที่ยวเกือบ 100,000 คน ที่ไหลบ่าไปยังอิแทวอนเมื่อวันเสาร์ (29 ต.ค.) และช่วงเวลาดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอยู่ในบริเวณนั้นเพียงแค่ 137 ราย
"ผู้คนกำลังล้มลงบนถนน ดูเหมือนมันอาจเกิดอุบัติเหตุ มันดูอันตรายมาก" อีกสายโทร.แจ้งเข้ามาตอนเเวลา 20.33 น. อ้างอิงจากบันทึกของตำรวจ ส่วนสายโทรศัพท์สุดท้ายแจ้งเข้ามาตอนเวลา 22.11 น. หรือไม่กี่นาทีก่อนที่ฝูงชนที่อัดแน่นกันในตอกแคบๆ และลาดเอียงจะเริ่มล้มทับกัน ตอนเวลาประมาณ 22.30น.
"ผู้คนจะเบียดกันจนตายที่นี่ มันโกลาหลมาก" บันทึกสายด่วนสายสุดท้ายระบุ พร้อมเน้นว่าระหว่างการแจ้งเหตุนั้นได้ยินเสียงกรีดร้องดังเข้ามาในสายโทรศัพท์ด้วย
ตำรวจเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ตอบสนองต่อการโทร.แจ้งสายด่วน 4 สาย จากทั้งหมด 11 สาย แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามการแจ้งเตือนของสายอื่นๆ หรือพวกเขาได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใดบ้าง หลังจากเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว
"เวลานี้สิ่งต่างๆ เหล่านี้อยู่ระหว่างการสืบสวน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่ผมจะให้คำตอบในตอนนี้" เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติรายหนึ่งกล่าว หลังถูกรอยเตอร์สอบถามเกี่ยวกับการตอบสนองสายด่วย 4 สาย
"ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนอย่างรวดเร็วและเข้มงวดในทุกแง่มุมโดยปราศจากการยกเว้นใดๆ เพื่ออธิบายความจริงของอุบัติเหตุครั้งนี้" ผู้บัญชาการตำรวจกล่าว
ในขณะที่ตำรวจเริ่มการสืบสวนหาสาเหตุว่าทำไมถึงมีผู้เสียชีวิตมากมายเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีรี ฮัน ด็อก-ซู เผยว่าการสืบสวนจะครอบคลุมถึงข้อสงสัยที่ว่าแนวทางตอบสนอง ณ จุดเกิดเหตุของหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล เป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่
(ที่มา : รอยเตอร์)