ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสะพานข้ามแม่น้ำพังถล่มในรัฐคุชราตของอินเดีย เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 132 รายวันนี้ (31 ต.ค.) ขณะที่ทางการได้ตั้งทีมสืบสวนเพื่อหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมดังกล่าวแล้ว
สะพานคนเดินซึ่งทอดข้ามแม่น้ำมักชู (Machhu) ในเมืองมอร์บี (Morbi) เกิดพังถล่มลงมาเมื่อวานนี้ (30) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ขึ้นไปยืนอัดแน่นกันอยู่บนสะพานในช่วงวันหยุดร่วงลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง
“ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสะพานถล่มเพิ่มเป็นอย่างน้อย 132 คน และขณะนี้ยังคงมีปฏิบัติการค้นหาอยู่” เอ็นเค มูชาร์ เจ้าหน้าที่อาวุโสในท้องถิ่นให้สัมภาษณ์ พร้อมเตือนว่าตัวเลขความสูญเสียอาจจะเพิ่มขึ้นอีก
กองทัพอินเดีย ร่วมกับสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ และหน่วยกู้ภัยจากเขตใกล้เคียง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกันค้นหานักท่องเที่ยวที่ยังคงสูญหายตามลำน้ำ และช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิต
สะพานแขวนความยาว 233 เมตร และกว้าง 1.5 เมตรแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1880 ระหว่างที่อินเดียยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และถูกปิดซ่อมไปนานถึง 7 เดือน ก่อนจะกลับมาเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อวันพุธที่แล้ว (26) ตามรายงานของสำนักข่าว NDTV
มีรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวขึ้นไปยืนเบียดเสียดกันบนสะพานกว่า 400 คน เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลดิวาลี (Diwali) ต่อเนื่องกับวันหยุดเทศกาลฉัฐปูชา (Chhat Puja)
เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่รัฐคุชราต ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ก่อนที่ทีมบริหารของพรรคภารติยะชนตะ (BJP) จะหมดวาระลงในเดือน ก.พ. ปี 2023
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนรัฐคุชราต บ้านเกิดของเขา เป็นเวลา 3 วัน ได้สั่งการโดยตรงไปยังมุขมนตรีแห่งรัฐให้ระดมพลเร่งด่วนสำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือและกู้ภัย ขณะที่แกนนำฝ่ายค้านออกมากล่าวโทษฝ่ายบริหารของ โมดี ว่าไม่ได้ตรวจประเมินทางเทคนิคและตรวจสอบความสามารถในการรับน้ำหนักของสะพานอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะเปิดใช้
ตำรวจอินเดียได้เปิดการสอบสวนผู้รับเหมาที่ดูแลงานซ่อมแซมสะพานแห่งนี้ ขณะที่ทางการรัฐคุชราช ได้ตั้งคณะกรรมการ 5 คนเพื่อสืบหาต้นตอของอุบัติเหตุสลดครั้งนี้แล้ว
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี