ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลปูติน เตือนเมื่อวันพุธ(26 ต.ค.) ว่า การประจำการของพลร่มที่ 101 แห่งกองทัพสหรัฐฯ ตามแนวชายแดนโรมาเนียติดกับยูเครน ทำให้ความมั่นคงของรัสเซียตกอยู่ในความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น และจะกระตุ้นให้มอสโกใช้มาตรการตอบโต้
เปสคอฟบอกกับผู้สื่อข่าว "ยิ่งทหารอเมริกาเข้าใกล้ชายแดนของพวกเรามากขึ้นเทาไหร่ เราก็ตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น" เขากล่าว พร้อมระบุว่า ครั้งที่มอสโกทบทวนกรอบการทำงานด้านความมั่นคง ปัจจัยต่างๆ อย่างเช่นการประจำการทางทหารก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาด้วย
โฆษกวังเครมลินรายนี้เน้นย้ำว่า การประจำการทางทหารใดๆ บริเวณบันไดหน้าประตูบ้านของรัสเซีย "ไม่ได้เป็นการส่งเสริมเสถียรภาพและนำมาซึ่งสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้บังคับบัญชาของกองพลพลร่มที่ 101 แห่งกองทัพสหรัฐฯ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสนิวส์ ว่า พวกเขาจะไม่รีรอเข้าไปในยูเครน หากว่าความขัดแย้งโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโต้ระเบิดขึ้น
โดยรวมแล้ว มีกำลังทหารอเมริกาในกองพลพลร่มที่ 101 จำนวนราวๆ 4,700 นาย ที่ถูกส่งไปยังยุโรป ในขณะที่ในโรมาเนีย กองทหารหน่วยนี้ซึ่งมีสมญานามว่า "อินทรีโกญจนาท (Screaming Eagle)" ได้ทำการซ้อมรบกระสุนจริงทางภาคพื้นและฝึกฝนปฏิบัติการจู่โจมทางอากาศ ร่วมกับทหารจากพันธมิตรนาโต้
จากคำกล่าวของบรรดาผู้บังคับบัญชาทหารสหรัฐฯ พบว่า กองพลพลร่มที่ 101 คือกำลังพลของอเมริกาที่อยู่ใกล้กับการสู้รบในยูเครนมากที่สุด และพวกเขาจับตาความเคลื่อนไหวของทหารรัสเซียอย่างกระตือรือร้น พร้อมๆ กับทำการซ้อมรบจำลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน
นาโต้เน้นย้ำมาตลอดว่าพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้ง และจะไม่ส่งทหารเข้าไปยังยูเครน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ระบุว่า ทางกลุ่มที่นำโดยสหรัฐฯ จะเพิ่มจำนวนกำลังทหารพร้อมรบจาก 40,000 คน เป็นกว่า 300,000 นาย ซึ่งจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถของนาโต้ ในการรับมือกับภัยคุกคามจากภายนอก ที่หมายถึงรัสเซีย
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)