รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ววันนี้ (20 ต.ค.) ยืนกรานขึ้นมารับตำแหน่งระหว่างช่วงเวลาเกิดความไร้เสถียรภาพระหว่างประเทศและทางเศรษฐกิจครั้งมโหฬารหลังทำงานมาได้แค่ 45 วันเท่านั้น หลังค่าเงินปอนด์อังกฤษตก รวมไปถึงตลาดการเงินป่วนผลจากมาตรการเศรษฐกิจที่เธอเสนอ เปิดเผยได้กราบทูลต่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เรื่องการขอลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟอังกฤษ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (20 ต.ค.) ว่า ในการแถลงด้านนอกบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิงในวันพฤหัสบดี (20) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ยอมรับว่าเธอไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้ในช่วงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟไว้ได้สำเร็จ และได้สูญเสียความไว้วางใจของพรรคไป
ทรัสส์ประกาศว่าการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟคนใหม่จะเสร็จสิ้นลงภายในสัปดาห์หน้าเพื่อสรรหาคนใหม่มารับหน้าที่ต่อจากเธอ ซึ่งทรัสส์ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันนี้ (20) ส่งผลทำให้เธอกลายเป็นผู้นำอังกฤษที่มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์เพียงแค่ 45 วันเท่านั้น
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทรัสส์เปิดเผยว่าได้กราบทูลพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สำหรับการลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟของเธอแล้ว ซึ่งเธอยืนยันว่าจะนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำรักษาการต่อไปจนกว่าผู้ชนะจะปรากฏ
ในคำแถลงการณ์ลาออกทรัสส์ อ้างว่า เธอเข้ามารับตำแหน่งในช่วงเวลาการไร้เสถียรภาพระหว่างประเทศและวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรง เธอย้ำว่าอังกฤษถูกดึงไว้กับการเติบโตเศรษฐกิจที่ต่ำมานานจนเกินไป และย้ำว่าได้รับฉันทมติจากพรรคเพื่อให้เข้ามาเปลี่ยนแปลงในสิ่งนี้
อย่างไรก็ตาม ทรัสส์กล่าวยอมรับว่า “เมื่อพิจารณาดูจากสถานการณ์ดิฉันคงไม่สามารถมอบฉันทมติต่อในสิ่งที่ดิฉันได้รับเลือกมาจากพรรคคอนเซอร์เวทีฟอังกฤษได้”
ขณะเดียวกัน พรรคแรงงานอังกฤษและพรรคลิบเดมส์ (Lib Dem) ออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปทันที
ซึ่งหัวหน้าพรรคแรงงานอังกฤษ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Sir Keir Starmer) กล่าวผ่านแถลงการณ์หลังจากที่ทรัสส์ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วว่า พรรคคอนเซอร์เวทีฟได้แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถที่จะปกครองได้อีกต่อไป และชี้ต่อว่าหลังจาก 12 ปีของความล้มเหลว ประชาชนอังกฤษสมควรได้สิ่งดีมากกว่าความโกลาหลนี้ พร้อมแจกแจงต่อว่าพรรคคอนเซอร์เวทีฟได้ทำให้ภาษีสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้สถาบันของพวกเราแปดเปื้อน และยังสร้างวิกฤตค่าครองชีพ
และในเวลานี้พวกเขาได้พังเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง ซึ่งสตาร์เมอร์ชี้ว่า ความเสียหายที่พรรคคอนเซอร์เวทีฟก่อนั้นต้องใช้เวลาหลายปีจึงจะเยียวยาได้
การเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหญ่อังกฤษ ยังรวมไปถึงจากนายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ นิโคลา สเตอร์เจียน (Nicola Sturgeon)
ข่าวการลาออกของทรัสส์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษอยู่ที่ 1 ปอนด์เท่ากับ 1.126 ดอลลาร์ ในระหว่างที่พวกนักลงทุนกำลังย่อยข่าวการลาออกของเธอ
รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง ได้แสดงความรู้สึกถึงข่าวการลาออกของทรัสส์ว่า “ผมรู้สึกเศร้าเสมอที่เห็นเพื่อนร่วมงานต้องจากไป”