นักเคลื่อนไหวกลุ่มหนึ่งในอังกฤษแห่เอา “นมวัว” ในซูเปอร์มาร์เกตมาเทราดบนพื้นหรือเคาน์เตอร์คิดเงิน โดยอ้างว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อประท้วงที่อุตสาหกรรมนมมีส่วนกระพือปัญหาโลกร้อน
กลุ่ม Animal Rebellion องค์กรเพื่อสิทธิสัตว์ที่อยู่เบื้องหลังกิจกรรมนี้ ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ (15 ต.ค.) ว่า “อุตสาหกรรมนมทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้ผลิตนมและเนื้อวัว 5 รายใหญ่ที่สุดของโลกมีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า Exxon, Shell หรือ BP เสียอีก”
“พวกเราจำเป็นต้องสร้างอนาคตที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากพืช (plant-based) ตั้งแต่วันนี้”
Animal Rebellion ระบุด้วยว่า กิจกรรม “เทนม” เกิดขึ้นที่ซูเปอร์มาร์เกต 8 แห่งทั้งในกรุงลอนดอน แมนเชสเตอร์ นอริช และเอดินบะระ เมื่อวันเสาร์ (15) พร้อมทั้งแชร์รายงานจากองค์กรไม่แสวงผลกำไร Grain และสถาบันเพื่อนโยบายเกษตรกรรมและการค้า (IATP) ซึ่งเรียกร้องให้ทั่วโลกลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการ “เลิกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อและนม”
“การทำฟาร์มสัตว์คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบนิเวศธรรมชาติและสัตว์ป่าสูญหายไป” ทางกลุ่มอ้าง และยังเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษ “สนับสนุนเกษตรกรให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตอาหารแบบ plant-based และเปลี่ยนพื้นที่เกษตรกรรมให้กลายเป็นผืนป่าอีกครั้ง เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์ป่า”
หลายประเทศทั่วโลกได้มีการออกกฎควบคุมอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น จำกัดการปล่อยทิ้งไนโตรเจนจากโรงงานผลิตภัณฑ์นม เป็นต้น นอกจากนี้ นักสิ่งแวดล้อมยังเรียกร้องให้ผู้คนหันมารับประทานผลิตภัณฑ์นมทางเลือกอื่นๆ เช่น นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง นมมะพร้าว และนมข้าวโอ๊ต แม้สินค้าเหล่านี้จะยังไม่วายถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้างเหมือนกันก็ตาม
ที่มา : New York Post