เอเจนซีส์ - รัสเซียประกาศวันนี้ (11 ต.ค.) สั่งบริษัท Meta บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กของมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ขึ้นบัญชีดำองค์กรก่อการร้าย ขณะที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ร่วมประชุมทางไกลกับที่ประชุมผู้นำชาติ G-7 ที่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ร่วมท่ามกลางยูเครนถูกรัสเซียโจมตีต่อเป็นวันที่ 2 ข่าวกรองอังกฤษเปิดเผยกองกำลังรัสเซียเหนื่อยอ่อนและมีอาวุธยุทโธปกรณ์ร่อยหรอ แต่ยังไม่เห็นสัญญาณแผนที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (11 ต.ค.) ว่า สำนักงานบริการเฝ้าระวังทางการเงินรัสเซีย (Federal Financial Monitoring Service) หรือ Rosfinmonitoring ล่าสุดได้เพิ่มชื่อบริษัท Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กซึ่งมีผู้ก่อตั้งคือ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ให้เป็นองค์กรก่อการร้าย
บริษัท Meta ถูกแบนในรัสเซีย ซึ่งการแบนนี้ส่งผลให้ธนาคารสามารถอายัดทรัพย์บริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีก่อการร้ายได้และสามารถยกเลิกการให้บริการชั่วคราวต่อบัญชีของบริษัท
ทั้งนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ศาลแขวงทเวิร์สกอย (Tverskoy) ในกรุงมอสโกพิจารณาให้บริษัทของซัคเกอร์เบิร์กเป็นองค์กรสุดโต่ง โดยอ้างว่าการจัดการของ Meta อนุญาตให้ผู้ใช้จากยูเครนเรียกร้องความรุนแรงต่อกองทัพรัสเซีย
และศาลไม่รับคำร้องอุทธรณ์โดยบริษัทอเมริกัน อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของศาลรัสเซียในเดือนมีนาคมไม่ได้ถูกใช้กับโซเชียลมีเดีย WhatsApp ที่ Meta เป็นเจ้าของเนื่องมาจากไม่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ
รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี เข้าร่วมการประชุมทางไกลกับกลุ่มผู้นำชาติ G-7 ที่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน รวมอยู่ด้วยในวันอังคาร (11)
เอเอฟพีชี้ว่า เครมลินแถลงวันอังคาร (11) ว่า มอสโกคาดว่าจะมีการเผชิญหน้ากับตะวันตกมากขึ้นก่อนหน้าการประชุมฉุกเฉิน G-7 เพื่อหารือ
“อารมณ์ก่อนหน้าซัมมิตเป็นสิ่งที่เป็นที่เข้าใจได้เป็นอย่างดี มันเป็นที่คาดการณ์ได้ง่าย การเผชิญหน้าจะยังคงดำเนินต่อไป” โฆษกเครมลิน ดมิตรี เพสคอฟ (Dmitry Peskov) กล่าวพร้อมกับตอกย้ำว่า “รัสเซียจะประสบสำเร็จเป้าหมายที่ตั้งไว้ในยูเครน”
เขายังแสดงความเห็นต่อการออกมาเสนอตัวของวอชิงตันเพื่อช่วยูเครนสำหรับความช่วยเหลือระบบป้องกันทางอากาศที่ก้าวหน้าให้เคียฟว่า ยิ่งจะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อและเจ็บปวดมากขึ้นสำหรับฝ่ายยูเครนเอง
ทั้งนี้ รัสเซียออกมายืนยันว่าก่อนหน้าการประชุมฉุกเฉิน G-7 ว่ารัสเซียปูพรมโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในยูเครนอีกครั้งวันอังคาร (11) โดยเจ้าหน้าที่เมืองลวิฟเปิดเผยว่า มีมิสไซล์ไม่ต่ำกว่า 3 ลูกโจมตีไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน เอเอฟพีรายงานว่า 1 ใน 3 ของเมืองลวิฟไม่มีไฟฟ้าใช้ และยูเครนได้ร้องขอให้ประชาชนของตัวเองช่วยกันใช้ไฟอย่างจำกัด
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงยืนยันการโจมตีโดยชี้ว่า ฝ่ายรัสเซียใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงพิสัยไกลเข้าทุกเป้าหมาย อ้างอิงจากสปุตนิก นิวส์ ของรัสเซีย กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า การโจมตีเจาะจงไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครนและกองบัญชาการทหารยูเครน
อ้างอิงจาก CNN ประธานาธิบดีเซเลนสกีเปิดเผยว่า ในวันอังคาร (11) ฝ่ายยูเครนสามารถสกัดมิสไซล์รัสเซียได้ 18 ลูกเช้านี้
ขณะเดียวกัน เจรามี เฟลมมิง (Jeremy Fleming) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอังกฤษ GCHQ เปิดเผยว่า ข่าวกรองอังกฤษล่าสุดบ่งชี้ว่า ในเวลานี้กองกำลังรัสเซียเหนื่อยอ่อน การตัดสินใจของประธานาธิบดีปูติน มีจุดอ่อนทางยุทธศาสตร์และยุทโธปกรณ์รัสเซียในยูเครนร่อยหรอ และหน่วยข่าวกรองอังกฤษยังไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ว่า รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์
โดยบีบีซี สื่ออังกฤษรายงานว่า ว่า เซอร์ เจรามี เฟลมมิง ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองอังกฤษ GCHQ ได้ออกมาเตือนการกล่าวถึงสถานการณ์นิวเคลียร์กับสถานีวิทยุเรดิโอ 4 ของบีบีซีว่า เป็นอันตรายอย่างมากในการพูดคุยในเรื่องนี้
เขากล่าวว่า “ทาง GCHQ คาดหวังว่าจะเห็นตัวบ่งชี้ต่างๆ หากว่ารัสเซียวางแผนที่จะใช้มัน” และเสริมต่อว่า “การพูดคุยใดๆ เกี่ยวอาวุธนิวเคลียร์ถือเป็นสิ่งอันตรายและพวกเราจำเป็นต้องมีความระมัดระวังมากถึงการที่จะหารืออย่างไรในเรื่องนี้”
เขากล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าปูตินต้องวิตกเกี่ยวกับอันตรายของการยกระดับ เขาคิดถึงสิ่งเหล่านี้ในแง่อื่นที่แตกต่างออกไป แต่ผมคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่เขายังไม่ไปถึงพวกมันเหล่านี้ในรูปแบบของการเรียกร้องก่อสงคราม”
ขณะที่ LBC สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (11) ว่า เฟลมมิง ประเมินสถานะรัสเซียในสงครามยูเครนล่าสุด
โดยอ้างอิงจากตัวอย่างบางส่วนของการแถลงที่เผยแพร่คืนวานนี้ (10) มีใจความว่า “เป็นยุทธศาสตร์ที่มีเดิมพันสูงที่นำไปสู่ความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ในการตัดสินใจ”
และเสริมต่อว่า “การได้เปรียบของพวกเขากลายเป็นสิ่งตรงข้าม กลายเป็นต้นทุนให้รัสเซียต่อประชาชนและอุปกรณ์นั้นกองพะเนิน พวกเรารู้และบรรดาผู้บัญชาการรัสเซียในสมรภูมิรบรู้ว่ายุทธปัจจัยและกระสุนของพวกเขากำลังจะหมดลง”
เฟลมมิงกล่าวต่อว่า “กองกำลังรัสเซียกำลังเหนื่อยอ่อน มีการใช้นักโทษเข้ามาเป็นกำลังเสริมและในเวลานี้มีการเคลื่อนพลหลายหมื่นของกองกำลังทหารเกณฑ์ที่ไม่มีประสบการณ์แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ยากลำบาก”