เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาแถลงวานนี้ (9 ต.ค.) ว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนเกิดดินถล่มในเมืองทางภาคกลางเหนือของเวเนซุเอลา ส่งผลทำให้เกิดดินถล่มและมีผู้เสียชีวิต 22 คน สูญหาย 52 คน
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานวานนี้ (9 ต.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาเชื่อว่ามีคนไม่ทราบจำนวนยังคงติดอยู่ภายในบ้านของตัวเองที่เกิดโคลนถล่มทับเป็นเพราะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในเมือง Las Tejerías
กองทัพเวเนซุเอลาวางแผนจะส่งสุนัขดมกลิ่นและโดรนเพื่อค้นหาผู้สูญหาย และเพื่อส่งยารักษาโรคและอาหาร เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเวเนซุเอลา เรมิจิโอ เซบอลลอส (Remigio Ceballos) กล่าวในงานแถลงข่าวที่เมืองแห่งนี้ซึ่งห่างจากกรุงคาราคัสออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 40 ไมล์
รองประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เดลซี โรดริเกซ (Delcy Rodríguez) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่พยายามทุกหนทางที่จะนำผู้ประสบภัยเหล่านี้ออกมาได้อย่างมีชีวิต แต่ทว่าจากเหตุฝนตกหนักและดินถล่มนี้ทำให้ผู้เสียชีวิตไปแล้วถึง 22 คน
“พวกเราสูญเสียเด็กๆ เด็กผู้หญิง เป็นสิ่งที่น่าเสียใจมาก” โรดริเกซกล่าว
นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ฝนเริ่มตกลงมาในช่วงบ่ายเกือบค่ำวันเสาร์ (8) และตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนส่งผลทำให้ระดับน้ำไหลเชี่ยวพัดพาต้นไม้และเสาไฟ รวมไปถึงสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและธุรกิจ บริการโทรศัพท์มือถือเกือบถูกพัดพาไปกับพายุ
มีบ้านเรือนราว 20,000 หลัง ที่อยู่ในเขตเมืองซานโตส มิเชเลนา (Santos Michelena) ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาตินี้อ้างอิงจากองค์กรกาชาดในรัฐอารากวา (Aragua)
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร วันอาทิตย์ (9) ออกคำสั่งเขตภัยพิบัติ พร้อมกำหนดให้ทั่วประเทศไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วัน และรองประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเปิดเผยว่า รัฐบาลคาราคัสจะให้ความช่วยเหลือด้านที่พักพิงสำหรับเหยื่อผู้ประสบภัย ให้การสนับสนุนต่อธุรกิจที่ได้รับความเสียหายและให้ความช่วยเหลือต่อเกษตรกรที่สูญเสียผลผลิตทางการเกษตร
โรดริเกซกล่าวแสดงความเห็นว่า เป็นเพราะวิกฤตการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลกทำให้เกิดวิกฤตร้ายแรงนี้ โดยในคืนวันอาทิตย์ (9) มีรายงานว่า ฝนเริ่มตกอีกครั้งในภูมิภาค