xs
xsm
sm
md
lg

ทูตจีนขอบคุณ ‘อีลอน มัสก์’ แนะ ‘ไต้หวัน’ ยอมเป็นเขตปกครองพิเศษ ผู้แทนไทเปซัด ‘เสรีภาพไม่ได้มีไว้ขาย!!’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ กล่าวขอบคุณ “อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก ที่อุตส่าห์แนะนำให้ไต้หวันยอมเป็นเขตปกครองพิเศษของจีนเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม ขณะที่ผู้แทนไทเปประจำวอชิงตันโต้เดือด “เสรีภาพและประชาธิปไตยซื้อขายกันไม่ได้”

เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว มัสก์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง “เทสลา” และ “สเปซเอ็กซ์” ได้ออกมาเสนอแผนสันติภาพ “รัสเซีย-ยูเครน” และเปิดโพลให้ชาวทวิตเตอร์โหวตจนโดนทัวร์ลงยับ ทว่าผ่านมาไม่กี่วันเขาก็เรียกแขกอีกครั้ง ด้วยการให้สัมภาษณ์กับสื่อไฟแนนเชียลไทม์สว่า ไต้หวันควรยอมสละอำนาจปกครองดินแดนบางส่วนให้ปักกิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม

“สิ่งที่ผมแนะนำก็คือ... ลองคิดหาวิธีจัดตั้งเขตปกครองพิเศษ (special administrative zone) สำหรับไต้หวันที่พอจะยอมรับได้ แม้จะไม่ทำให้ทุกฝ่ายแฮปปี้ก็ตาม” มัสก์ กล่าว

ข้อเสนอของ มัสก์ ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจจีนอย่างมาก โดย ฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ได้ออกมาทวีต “ขอบคุณ” มัสก์ เมื่อวันเสาร์ (8) ที่ช่วยเสนอทางออกสำหรับความขัดแย้ง และเอ่ยย้ำข้อเรียกร้องของปักกิ่งที่ต้องการ “รวมชาติกับไต้หวันโดยสันติ” ภายใต้การปกครอง “หนึ่งประเทศ-สองระบบ”

“ผมขอขอบคุณ @elonmusk ที่ออกมาเรียกร้องสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน และเสนอแนวคิดในการจัดตั้งเขตปกครองพิเศษของจีนขึ้นในไต้หวัน” ฉิน ระบุ

“อันที่จริงแล้ว การรวมชาติอย่างสันติและการปกครองแบบหนึ่งประเทศ-สองระบบ คือหลักการขั้นพื้นฐานของเราในการแก้ไขปัญหาไต้หวันอยู่แล้ว และเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้การรวมชาติเป็นจริงได้”

“เมื่ออธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของจีนถูกรับรอง ไต้หวันภายหลังการรวมชาติจะได้รับสิทธิปกครองตนเองขั้นสูงในฐานะเขตปกครองพิเศษ และมีพื้นที่สำหรับการพัฒนาอย่างกว้างขวางด้วยเช่นกัน”

เซียว บีคิม (Hsiao Bi-khim) ผู้แทนไต้หวันประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
อย่างไรก็ตาม โมเดล “หนึ่งประเทศ-สองระบบ” ยังคงไม่เป็นที่ยอมรับจากพรรคการเมืองหลักๆ ในไต้หวัน อีกทั้งประชาชนไต้หวันเองก็ไม่ปลื้ม หลังจากที่เห็นชะตากรรมของคนฮ่องกงซึ่งถูกจีนเอากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาบังคับใช้เมื่อปี 2020

เซียว บีคิม (Hsiao Bi-khim) ผู้แทนไต้หวันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ออกมาทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ (8 ต.ค.) ว่า “ไต้หวันขายสินค้ามากมายหลายอย่าง แต่เสรีภาพและประชาธิปไตยเราไม่ขาย”

“ข้อเสนอใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับอนาคตของเราจะต้องพิจารณาอย่างสันติ ปราศจากการข่มขู่ และเคารพความปรารถนาในระบอบประชาธิปไตยของชาวไต้หวันด้วย”

จีนซึ่งยืนกรานว่าไต้หวันเป็น “มณฑล” หนึ่งของตน ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทหารเพื่อนำไต้หวันมาอยู่ภายใต้อาณัติ ขณะที่ทางการไต้หวันปฏิเสธการกล่าวอ้างอธิปไตยของจีนมาโดยตลอด และย้ำว่าอนาคตของไต้หวันเป็นสิ่งที่ประชากรไต้หวัน 23 ล้านคนจะต้องตัดสินใจเอง

ที่มา : รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น