เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่อรัสเซียอ้างว่า หน่วยงานความมั่นคงยูเครน SSU ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีสะพานไครเมีย ทำลายสายส่งยุทธปัจจัยรัสเซีย และทำให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต้องขายหน้ารับวันเกิดครบ 70 ปี รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนีย อัวร์มาส เรนซาลู (Urmas Reinsalu) แสดงความยินดีต่อชัยชนะของเคียฟ ให้เครดิตความสำเร็จต่อหน่วยปฏิบัติการพิเศษยูเครน แต่สะพานเริ่มกลับมาเปิดใช้ได้บางส่วนหลังจากนั้น
ยูเครนสกา พราฟดา (Ukrainska Pravda) สื่อยูเครนรายงานเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ว่า อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายว่า หน่วยงานความมั่นคงยูเครน SSU (Security Service of Ukraine) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีสะพานไครเมียวันเสาร์ (8) ในส่วนของระบบราง และทำให้บางส่วนของสะพานได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต 3 ราย
อ้างอิงจากแหล่งข่าวระบุว่า การโจมตีเป็นปฏิบัติการพิเศษของหน่วย SSU แต่ทว่าสื่อยูเครนชี้ว่า หน่วย SSU ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการถึงความเกี่ยวข้อง
ซึ่งภาพสะพานไครเมียกำลังลุกไหม้เห็นเปลวไฟสีส้มแต่ไกลเมื่อเช้าวันเสาร์ (8) นั้นบริษัทดาวเทียมเชิงพาณิชย์ แม็กซาร์ (Maxar) ได้เผยแพร่ภาพดาวเทียมของสะพานไครเมียขณะเกิดเหตุไว้ได้ผ่านทางทวิตเตอร์
โดยเป็นภาพที่แสดงก่อนเกิดเหตุวันศุกร์ (7) และขณะที่กำลังเกิดเหตุในวันเสาร์ (8) แสดงความเสียหายปรากฏออกมา
การออกมารายงานผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีสะพานไครเมียของยูเครนสกา พราฟดา นี้ตรงกับบิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานเช่นกันว่า ถึแม้จะไม่มีการออกมายอมรับอย่างเป็นทางการ แต่ทว่าผู้มีอำนาจเคียฟทวีตแสดงความเห็นออกมาเป็นนัยว่าเคียฟอยู่เบื้องหลัง
โดยเหตุเกิดในเวลา 6 โมงเช้าวานนี้ (8) ตามเวลาท้องถิ่นจากรถบรรทุกเชื้อเพลิงเกิดระเบิดบนสะพานไครเมีย ซึ่งเป็นสะพานรถและรถไฟข้ามช่องแคบเคิร์ช (Kerch Strait) เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซีย และแหลมไครเมียที่ถูกรัสเซียผนวกเมื่อปี 2014
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า ปัจจุบันนี้ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดถึงสาเหตุการระเบิด แต่ทว่า วลาดิมีร์ คอนสแตนตินอฟ (Vladimir Konstantinov) ประธานสภาแห่งรัฐของไครเมีย (State Council of Crimea) รีบออกมาชี้นิ้วไปที่เคียฟทันที
คอนสแตนตินอฟกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย เทเลแกรม ว่า “ยูเครนตั้งใจทำลายทรัพย์สินที่บางทีพวกเขามารถทำให้รอยเท้าเปื้อนเลือดบนสะพานไครเมียได้”
และเสริมต่อว่า “ในเวลานี้พวกเขามีบางสิ่งที่สามารถภาคภูมิใจได้ ในตลอดระยะเวลา 23 ปีของความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจนั้นคนเหล่านี้ไม่ได้ทำอะไร พยายามสร้างอะไรที่จะเป็นผลประโยชน์ของไครเมีย” คอนสแตนตินอฟ กล่าวอีกว่า “แต่ทว่าพวกเขากลับประสบความสำเร็จในการทำลายพื้นถนนสะพานรัสเซีย”
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานต่อว่า โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนทวีตเป็นนัยว่า ยูเครนอาจลอบโจมตีลับหลังต่อสะพานเส้นสำคัญสำหรับการลำเลียงยุทธปัจจัยของรัสเซียนี้เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 70 ปีของท่านประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
ผู้มีอำนาจระดับสูงของเคียฟออกมาล้อต่อการขายหน้าของปูติน หลังสะพานไครเมียถูกระเบิด รวมถึงที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน มิไคโล โปลโดลยัค (Mykhailo Podolyak) ที่ยืนยันว่า ตั้งแต่เริ่มแรกสะพานไครเมียเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ต้องทำลายทิ้ง ทุกสิ่งที่ขโมยออกไปต้องส่งกลับคืนให้เคียฟ
ขณะที่รัฐบาลเคียฟกล่าวสั้นๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ถึงสะพานไครเมียที่ถูกโจมตีว่า “sick burn” ที่ตั้งใจพูดในเชิงล้อ
นิวสวีกรายงานว่า ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนีย อัวร์มาส เรนซาลู (Urmas Reinsalu) แสดงความยินดีต่อชัยชนะของเคียฟที่สะพานไครเมียเกิดระเบิดหลังจากที่เคียฟประสบความสำเร็จในการลอบโจมตี
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่าโดยถึงแม้จะไม่มีการออกมายอมรับจากเคียฟ และรัสเซียกล่าวว่า การระเบิดเกิดจากการระเบิดขึ้นของรถบรรทุกแต่เรนซาลูเดินหน้ายกเครดิตความดีความชอบให้เคียฟ ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อเอสโตเนีย พร้อมกับยกย่องในความพยายาม อ้างอิงจากเคียฟ อินดิเพนเดนท์ (Kyiv Independent)
โดยในการให้สัมภาษณ์ของเรนซาลูที่เปิดเผยโดยสื่อเอสโตเนีย เขากล่าวว่า “เอสโตเนียย่อมต้อนรับต่อสิ่งนี้และแสดงความยินดีต่อหน่วยปฏิบัติการพิเศษยูเครนที่คาดว่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการนี้”
ขณะที่อดีตผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ที่เกษียณอายุ พล ท.มาร์ค เฮิร์ตลิง (Mark Hertling) ประเมินความเสียหายของสะพานไครเมียที่จะมีต่อรัสเซียทางด้านโลจิสติกส์ โดยเทียบไปถึงความเสียหายที่เกิดกับกองกำลังสหรัฐฯ ในอิรักเมื่อปี 2007
“ในอิรักหน่วยทหารช่างที่น่าทึ่งของพวกเราสามารถซ่อมแซมสะพานคิว (Q Bridge) ได้อย่างรวดเร็ว” และเสริมต่อว่า “แต่ด้วยชัยภูมิ ขอบเขตความเสียหายของทั้งส่วนถนนทางรถและทางรถไฟ และความไร้สมรรถนะของกองทัพรัสเซีย ผมไม่คิดว่าการซ่อมแซมสะพานเคิร์ช (Kerch Bridge) จะสามารถเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้”
เขากล่าวแสดงความเห็นว่า ปฏอบัติการโจมตีสะพานไครเมียครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อยุทธศาสตร์ในอนาคตของรัสเซียและยูเครน เหมือนคำพังเพยทางการทหารที่เคยกล่าวไว้ “หากลืมสายส่งลำเลียง คุณแพ้แน่” ซึ่งฝั่งรัสเซียมักคำนึงถึงข้อเตือนใจนี้ และเฮิร์ตลิงเชื่อว่า ในเวลานี้รัสเซียมีทางเลือกไม่มากนักแล้ว
และในทวีตล่าสุดของเขาเมื่อ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา เฮิร์ตลิงกล่าวว่า “สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวนมากดูที่จะฉลาดกว่าและมองโลกในแง่ตามความเป็นจริงมากกว่าคนบางส่วนในระดับสูงของรัสเซีย”
แต่อย่างไรก็ตาม บีบีซีรายงานล่าสุดว่า สะพานไครเมียที่เกิดระเบิดและมีบางส่วนพังนั้นล่าสุดสามารถเปิดใช้ได้บางส่วนแล้ว โดยการจราจรสามารถกลับมาได้อีกครั้งไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น
โดยในค่ำวันเสาร์ (8) กระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้เผยแพร่วิดีโอคลิปที่แสดงให้เห็นถึงการสัญจรทางรถบนสะพานไครเมียที่เปิดใช้ทำการเมื่อปี 2018 โดยประธานาธิบดีปูติน
บีบีซีรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า “ปฏิกิริยาของรัฐบาลเคียฟต่อการทำลายของสิ่งปลูกสร้างทางพลเรือนถือเป็นหลักฐานหนักแน่นแสดงให้เห็นถึงนิสัยก่อการร้ายของพวกเขา”
อ้างอิงจากเดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุพบประชาชนไครเมียตื่นแห่ซื้อกักตุนสิ่งจำเป็นพื้นฐานทันที