กองทัพเกาหลีใต้ออกคำแถลง “ขออภัย” ต่อประชาชน ภายหลังขีปนาวุธลูกหนึ่งทำงานขัดข้องและตกลงสู่พื้นดินระหว่างปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านแตกตื่น คิดว่าเป็นจรวดที่ยิงมาจาก “เกาหลีเหนือ”
การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงครั้งนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยปานกลาง (IRBM) ข้ามหมู่เกาะญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ออกมากลับกลายเป็นความขายหน้าของฝั่งโซล เมื่อขีปนาวุธพิสัยใกล้ฮยูมู-2 (Hyumoo-2) ลูกหนึ่งเกิดทำงานผิดพลาด และตกลงสู่พื้นดินภายในฐานทัพอากาศใกล้ๆ กับเมืองกังนึง (Gangneung)
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า แม้มิสไซล์ลูกนี้จะไม่ “ระเบิด” และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทว่าเสียงที่ดังสนั่นและเหตุเพลิงไหม้ที่ตามมาก็ทำให้ชาวบ้านบางคนเข้าใจผิดคิดว่า “เกาหลีเหนือ” เปิดฉากโจมตี
ชาวเน็ตแห่แชร์คลิปลูกไฟสีส้มขนาดใหญ่พวยพุ่งสู่ท้องฟ้าใกล้ๆ ฐานทัพอากาศที่เมืองกังนึง ทว่ากองทัพเกาหลีใต้ยังคงปิดปากเงียบอยู่นานหลายชั่วโมง ก่อนจะออกมายอมรับว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ขีปนาวุธลูกนี้ “เดินทางในวิถีผิดปกติ”
เหตุระทึกดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่กองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้รัวยิงขีปนาวุธไปตกในทะเลตะวันออก หรือ “ทะเลญี่ปุ่น” เพื่อตอบโต้ที่โสมแดงยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามหมู่เกาะญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2017 จนสร้างความตื่นตระหนกขึ้นในภูมิภาค
สำหรับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั้นสร้างสถิติเดินทางไปได้ไกลถึง 4,600 กิโลเมตร และพุ่งสูงขึ้นไปในอวกาศถึง 1,000 กิโลเมตร นับเป็นขีปนาวุธที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดที่เปียงยางงัดออกมาโชว์ในรอบหลายปี และด้วยพิสัยเดินทางระดับนี้ทำให้มันสามารถโจมตีได้ถึง “เกาะกวม” ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของอเมริกา
ขีปนาวุธดังกล่าวลอยไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกห่างจากญี่ปุ่นไปทางตะวันออกราว 3,200 กิโลเมตร ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นถึงขั้นออกประกาศเตือนภัย ‘J-alert’ ให้ประชาชนหาสถานที่หลบภัยชั่วคราว ระหว่างที่ขีปนาวุธเคลื่อนตัวผ่านเกาะฮอกไกโด และจังหวัดอาโอโมริ
คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ ATACMS จำนวน 2 ลูกไปตกในบริเวณเป้าหมายที่กำหนดไว้ในทะเล “อย่างแม่นยำ” และการซ้อมรบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของกลุ่มพันธมิตรในการที่จะ ”ลบล้าง (neutralise) อันตรายอันเกิดจากต้นตอการยั่วยุ และยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง”
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยังได้ส่งเครื่องบินขับไล่ออกปฏิบัติภารกิจซ้อมทิ้งระเบิดลงสู่เป้าหมายในทะเลเหลืองเมื่อวานนี้ (4) ด้วย
ที่มา : The Guardian
