รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) อดีตประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา สามารถคว่ำผู้นำคนปัจจุบัน ฌาอีร์ โบลโซนารู ไปได้ 48.4% แต่ไม่สามารถได้เสียงส่วนใหญ่ ส่งผลทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลรอบ 2 วันที่ 30 ต.ค.อย่างเลี่ยงไม่ได้ เกิดขึ้นหลังอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาประกาศรับรองโบลโซนารูเรียกเสียงคะแนนเลือกตั้งในบราซิล
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า การรณรงค์เลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลรอบ 2 เริ่มต้นขึ้นทันทีในวันจันทร์ (3) หลังประธานาธิบดีบราซิลการเมืองปีกขวา ฌาอีร์ โบลโซนารู สามารถทำได้ดีเกินคาดทำให้ความหวังที่จะสามารถคว้าชัยได้อย่างรวดเร็วของอดีตประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) ต้องมีอันหมดไป
เจแปนไทม์สรายงานว่า ทั้งนี้ ลูลาเคยดำรงตำแหน่งผู้นำบราซิลระหว่างปี 2002-2010 เขาเคยถูกจำคุกในข้อหาคอร์รัปชัน
หลังจากคะแนนนับไปแล้ว 99.9% พบว่าลูลา ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลรอบแรกวันอาทิตย์ (2) 48.4% ขณะที่โบลโซนารูได้ไป 43.2% และจากการที่ทั้งคู่ไม่มีฝ่ายใดได้เสียงข้างมากส่งผลทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลรอบ 2 จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 ต.ค.นี้
เดอะการ์เดียนรายงานว่า โบลโซนารูที่ผ่านมาถูกกล่าวหาว่าทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและจัดการวิกฤตโควิด-19 อย่างผิดพลาดขั้นร้ายแรงที่เห็นยอดการเสียชีวิตชาวบราซิลไปเกือบ 700,000 คน หลังโบลโซนารูขัดขวางโครงการวัคซีนโควิด-19 รวมไปถึงการความพยายามการรักษาอย่างรวดเร็วนั้นต้องล่าช้า
คืนวันอาทิตย์ (2) โบลโซนารูให้คำมั่นสัญญาที่จะอุทิศเวลามากขึ้นในการหว่านล้อมภาคส่วนยากจนสุดของสังคมจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นภายใต้รัฐบาลการเมืองปีกขวาบราซิลมากกว่ารัฐบาลปีกซ้าย
โบลโซนารู แถลงว่า “ผมเข้าใจว่ามีการโหวตเป็นจำนวนมากเป็นเพราะเงื่อนไขของประชาชนบราซิลที่รู้สึกถึงราคาแพงขึ้นโดยเฉพาะสินค้าพื้นฐาน ผมเข้าใจว่ามีคนเป็นจำนวนมากมีความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลงแต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงบางอย่างสามารถเลวร้ายได้”
เขายืนยันว่าบราซิลต้องเลี่ยงไม่เดินตามประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ชิลี และโคลัมเบีย ที่เลือกรัฐบาลปีกซ้าย นอกจากนี้ โบลโซนารูได้ส่งสัญญาณว่าว่าเขาจะไม่ยอมออกจากตำแหน่งถึงแม้ว่าจะแพ้เลือกตั้ง สร้างความวิตกว่าโบลโซนารูอาจใช้วิธีเลียนแบบอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ผู้สนับสนุนของเขาก่อกบฏเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 โดยการบุกเข้าไปภายในรัฐสภาสหรัฐฯ
โดยสื่อไทม์สรายงานวันศุกร์ (30 ก.ย.) เป็นการวิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่โบลโซนารูอาจใช้วิธี "Stop the Steal playbook" ก็เป็นได้ แต่ทว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในที่สุด "ไม่สามารถ" หยุดการเปลี่ยนถ่ายอำนาจไปให้กับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้
อนาโดลูของตุรกีรายงานในวันเสาร์ (1) ว่า โบลโซนารูได้รับการรับรองจากทรัมป์เพื่อเรียกเสียงคะแนนเลือกตั้งในบราซิล โดยในแถลงการณ์ที่ผ่านวิดีโอคลิปกล่าวว่า "ถึงประชาชนแห่งบราซิล พวกคุณมีโอกาสอย่างมหาศาลในการเลือกผู้นำที่แสนวิเศษกลับมาอีกครั้ง ผู้ชายที่แสนวิเศษ หนึ่งในประธานาธิบดีที่วิเศษที่สุดของประเทศใดๆ ในโลก ประธานาธิบดีโบลโซนารู"
และทรัมป์กล่าวต่อว่า "เขาทำงานได้อย่างแสนวิเศษกับเศรษฐกิจของพวกคุณ กับประเทศของพวกคุณ เขาเป็นที่เคารพต่อทุกคนทั่วโลก ดังนั้นผมขอรับรองอย่างหนักแน่นแก่ประธานาธิบดีโบลโซนารู เขาจะเป็นผู้นำของคุณสำหรับความหวังในระยะยาว เขานำประเทศของพวกคุณขึ้นสู่จุดสูงสุดและอีกครั้ง ประเทศของคุณได้รับการนับถือเป็นเพราะเขาทั่วทั้งโลก ดังนั้นจงออกไปและโหวตให้โบลโซนารู"
สื่อตุรกีรายงานว่า ทั้งนี้ โบลโซนารูแถลงตอบขอบคุณอดีตประธานาธิบดีทรัมป์วันเสาร์ (1)
ขณะเดียวกัน ลูลาแถลงกับนักข่าวในคืนวันอาทิตย์ (2) ในรายงานของ CNN ว่า เขาเชื่อมั่นว่าจะสามารถเอาชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลรอบ 2 วันที่้ 30 ต.ค.นี้ "มันเป็นเรื่องสำคัญ (ในการมีเลือกตั้งรอบ 2) เพราะพวกเรามีโอกาสที่จะดีเบตแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีคนปัจจุบันเพื่อที่จะรู้ว่าเขาจะยังคงเล่าโกหกต่อไป"