เอเจนซีส์ - ตำรวจอิสราเอลแถลงคนร้าย 3 คน ได้แก่ ชาวปากีสถาน 1 ราย ชาวเมืองเยรูซาเลมตะวันออก และแรงงานต่างชาติที่เดินทางมาจากไทยอีก 1 คน ถูกนำตัวไปสอบปากคำหลังทหารหญิง IDF พบคนทั้งหมดในวันเสาร์ (1 ต.ค.) กำลังบุกงัดเข้าฐานทัพอิสราเอลในเขตที่ราบสูงโกลัน โดยมี 1 ในนั้นกำลังนั่งอยู่ในรถเพื่อดูต้นทางข้างนอก
เยรูซาเลมโพสต์ สื่อยิวรายงานวานนี้ (1 ต.ค.) ว่า คนทั้ง 3 ถูกจับในข้อหาบุกงัดเข้าฐานทัพอิสราเอลในเขตที่ราบสูงโกลัน โฆษกสำนักงานตำรวจอิสราเอลกล่าวในแถลงการณ์บ่ายวันเสาร์ (1)
และยืนยันว่าทั้งหมดจะถูกนำไปขึ้นศาลแขวง เคอร์ยัต ชโมนา (Kiryat Shmona) วันนี้ (2) พร้อมทั้งการยื่นขอให้ขยายการควบคุมตัวต่อไป
โดยเบื้องต้นรายงานที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับการบุกรุกฐานทัพอิสราเอล IDF นั้นพบว่า ทหาร IDF 2 นาย จับกุมคคนร้าย 2 คนที่อยู่ด้านในฐานทัพไว้ได้ และอีก 1 คนกำลังรออยู่ในรถที่จอดอยู่ด้านนอก
คนร้ายทั้ง 3 ถูกส่งตัวให้ตำรวจเพื่อสอบสวนถึงเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อความกระจ่าง
ในแถลงการณ์ของตำรวจอิสราเอลระบุว่า คนร้ายทั้ง 3 คน ได้แก่ ชาวปากีสถาน 1 รายจากเมืองฮีบรอน (Hebron) และชาวเมืองเยรูซาเลมตะวันออก 1 คน รวมไปถึงแรงงานต่างชาติจากไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเลม โดยทั้งหมดถูกนำตัวไปสอบปากคำแล้ว
“ในเช้านี้พวกเราได้ชี้ตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนในฐานทัพเคเรน (Keren) ที่พวกเรากำลังปกป้อง พร้อมกับทหารหญิงของข้าพเจ้า พวกเราพยายามที่จะติดต่อและเริ่มต้นกระบวนการจับกุมและจบลงด้วยพวกเราโหลดอาวุธ พวกเราจับกุมผู้สงสัยและค้นหาในพื้นที่” สิบเอก โรนี โกโรดันชิค (Sg.Roni Gorodanchik) หัวหน้าหน่วยกล่าวและเสริมต่อว่า
“ตำรวจอิสราเอลซึ่งเดินทางอย่างรวดเร็วมาถึงที่ฐานทัพและนำตัวคนทั้งหมดไปเพื่อการสอบสวนเพิ่มเติม ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจต่อนักรบเหล่านี้ นักรบและผู้บัญชาการที่อยู่ร่วมกับข้าพเจ้า พวกเราจัดการขจัดขวากหนามการบุกงัดฐานทัพและช่วยในการต่อสู้กับอาชญากรรมและการขโมยอุปกรณ์เครื่องมือกองทัพ”
ข่าวการบุกงัดฐานทัพเกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ บริษัทอาวุธเอลบิต ซิสเต็มส์ (Elbit systems) ในวันพุธ (28 ก.ย.) แถลงยืนยันข้อตกลงมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ภายใต้ข้อตกลง 3 ปีในการซื้อและรวมการฝึกสำหรับโดรนทางการทหาร “Hermes 900” ที่มีสมรรถนะบินนาน 36 ชั่วโมง ในอัตราความเร็ว 112 กิโลเมตร/ชั่วโมง ให้กองทัพเรือไทย