เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกคำสั่งเรียกเกณฑ์กำลังทหารเพิ่มอีก 120,000 นาย แต่อ้างไม่เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน นิวยอร์กไทม์สเปิดเผยทหารรัสเซียคุยกัน เอาชุดเกราะออกจากศพทหารยูเครนชี้ ชุดเกราะนาโตดีกว่า บ่นถึงความขาดแคลนอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ที่เก่าคร่ำครึของฝ่ายรัสเซีย ด้านรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ออกโรงประณามคำขู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์ของผู้นำรัสเซีย แต่ชี้ว่ายังมองไม่เห็นสิ่งผิดปกติที่บ่งชี้จะเตรียมใช้ในสงครามยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่
เมโทร สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) ว่า ตามคำสั่งใหม่ที่ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่สำนักข่าวทาซ (TASS) ของรัสเซียกล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ลงนามเรียบร้อยแล้วเรียกเกณฑ์ทหารเพิ่มชายชาวรัสเซียอายุระหว่าง 18-27 ปี ระหว่างที่กำลังศึกษาระดับสูง
ในคำประกาศระบุว่า เป็นการเกณฑ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน
แต่อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เมโทรระบุว่า เป็นที่บังเอิญว่าคำสั่งเรียกกำลังพลเพิ่มนี้ตรงกับการเคลื่อนกำลังพลบางส่วนสำหรับสงครามขั้นถัดไปของยูเครนซึ่งจะเห็นกำลังทหารรัสเซียอีก 300,000 นายถูกส่งสู่แนวหน้า
ซึ่งภาพที่เปิดเผยครั้งแรกวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) ถึงสภาพกำลังทหารกองหนุนใหม่ของรัสเซียที่ถูกเรียกตัวมาแสดงให้เห็นสภาพความยากลำบากของกองทัพปูตินได้เป็นอย่างดี สื่ออังกฤษชี้
เพราะภาพกองกำลังกองหนุนในเซวาสโตโปล (Sevastopol) ของไครเมียที่ถูกผนวกไปตั้งแต่ปี 2014 แสดงให้เห็นกลุ่มทหารกองหนุนอายุราว 50-60 ปี ที่แบกปืนในสภาพที่ไม่ดูเหมือนว่าจะมีความพร้อมสู่สนามรบ
ซึ่งสำหรับการรบของกองทัพสมัยใหม่มักจะต้องใช้เวลาราว 10 สัปดาห์สำหรับผู้ที่สมัครเข้าใหม่ก่อนไปรบ แต่รัสเซียประกาศว่าจะใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ก่อนส่งไปรบในยูเครน
แต่ทว่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนที่โพสต์ขึ้นโซเชียลมีเดีย เทเลแกรม ได้ระบุว่า ในความเป็นจริงใช้เวลาสั้นกว่านั้นมาก โดย เพอร์วี ออตเดล (Perviy Otdel) ซึ่งได้รับการเกณฑ์ใหม่จากกองทัพรัสเซียยืนยันว่า
“พวกเราได้รับการบอกอย่างเป็นทางการจะไม่มีการฝึกก่อนพวกเราจะถูกส่งไปยังสนามรบ” และเสริมต่อว่า “ในวันที่ 29 ก.ย. พวกเราจะถูกส่งไปยังเมืองเคียร์ซอน (Kherson)” และชี้ว่าผู้บัญชาการหน่วยยืนยันในเรื่องนี้แล้ว
ขณะที่มีอีกคลิปแสดงให้เห็นทหารใหม่ต้องถูกบังคับให้นอนกับพื้นและเจ้าหน้าที่กองทัพอีกนายยอมรับว่าเขาถูกเรียกตัวกะทันหันระหว่างกำลังพักผ่อนและไม่รู้เลยว่าเครื่องมือหรือยุทธปัจจัยนั้นอยู่ที่ใดบ้าง หรือหน่วยจะถูกส่งไปยังที่ใด ท่ามกลางความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยีทางการทหารระหว่างกองกำลังเคียฟที่ได้รับการป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ และชาติตะวันตก และของรัสเซียที่มีภาพกำลังทหารรัสเซียถือปืน AK-47 ที่ขึ้นสนิม
บิสซิเนสอินไซเดอร์ รายงานวันพฤหัสบดี (29) โดยอ้างจากการรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สที่ได้มาจากการดักฟังการสนทนาระหว่างกองกำลังทหารรัสเซีย ซึ่งปรับทุกข์ถึงความไม่เท่าเทียมอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหาร
โดยมีหนึ่งในทหารรัสเซียกล่าวว่า “มีทหารรัสเซียบางคนถอดชุดเกราะออกจากศพทหารยูเครนและเอามาใช้เอง” และกล่าวต่อว่า “ชุดเกราะนาโตดีกว่าของพวกเรา”
ขณะที่บางคนกล่าวว่า จากหน่วยที่มีกำลังทั้งหมด 400 นาย แต่รอดมาได้แค่ 38 นาย “เป็นเพราะผู้บัญชาการของพวกเราส่งทหารไปตาย”
ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานวันพุธ (28 ก.ย) ว่า สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการสำหรับเงินช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนอีก 1.1 พันล้านดอลลาร์
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ได้ให้สัมภาษณ์แก่ CNN ซึ่งจะทำการออกอากาศภายในสหรัฐฯ วันอาทิตย์ (2) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นฝั่งตะวันออก ของรายการ Fareed Zakaria GPS
CNN รายงานว่า “เพื่อความชัดเจนคนที่ทำการตัดสินใจเช่นนั้น ผมหมายถึงชายผู้นั้น” โดยออสตินได้กล่าวไปถึงคำข่มขู่รัสเซียที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ
“ไม่มีการตรวจสอบสำหรับคุณปูตินเหมือนอย่างเช่นเขาทำการตัดสินใจอย่างไร้ความรับผิดชอบในการบุกยูเครน คุณรู้ว่าเขาสามารถตัดสินใจอื่นอีกแต่ผมยังไม่เห็นสิ่งใดในเวลานี้ที่จะทำให้ผมเชื่อว่าเขาได้ทำการตัดสินใจเช่นนั้น”
ในรายการผู้นำเพนตากอนยังเปิดเผยว่า เขาในทางส่วนตัวเคยร้องขอให้รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู อย่าเลือกเดินในหนทางนี้และกระทำการอย่างไร้ความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ออสตินยอมรับว่า ยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับชอยกูเร็ววันนี้ แต่ยืนยันว่าผู้นำรัฐบาลสหรัฐฯ คนอื่นๆ ได้ฝากสารที่มีข้อความคล้ายกันนี้ไปยังฝั่งรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้
ออสติน กล่าวว่า การประกาศผนวกดินแดนยูเครนของปูตินนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมกับเรียกคำข่มขู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์ว่า ไร้ความรับผิดชอบ
“การแกว่งดาบด้วยคำขู่นิวเคลียร์นี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราคาดจะได้ยินจากระดับผู้นำของชาติมหาอำนาจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ” ออสตินแสดงความเห็น พร้อมกับยืนยันว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนยูเครนต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากผู้นำรัสเซียประกาศแถลงผนวกดินแดนยูเครนเพิ่มในวันศุกร์ (30 ก.ย) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ออกมาประณามทันที