เอเจนซีส์ - ค่าสกุลเงินปอนด์สเตอริงของอังกฤษวันพุธ (28 ก.ย.) ตกไปที่ 1.05 ดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศเข้าแทรกชั่วคราวด้วยการช้อนซื้อพันธบัตรรัฐบาล มูลค่า 65 พันล้านปอนด์เพื่อหยุดความผันผวนของตลาด ส่งผลทำให้ค่าเงินปอนด์ดีดกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยภายหลังที่ 1.08 ดอลลาร์ ด้านพรรคแรงงานอังกฤษออกโรงกดดันให้นายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ และรัฐมนตรีคลังอังกฤษ คาวาซี กวาร์เต็ง ยกเลิกมาตรการลดภาษครั้งมโหฬาร
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (29 ก.ย.) ว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ในวันพฤหัสบดี (29) ออกมายืนยันมาตรการปรับลดภาษีที่ถูกวางไว้ในงบประมาณขนาดเล็กนั้นเป็น “แผนการที่ถูกต้อง” ถึงแม้ว่าการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจะทำให้ตลาดเกิดผันผวนและค่าสกุลเงินปอนด์สเตอริงของอังกฤษตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็ตาม
ทรัสส์ ยืนยันว่า มาตรการเร่งด่วนนั้นมีความจำเป็นสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการปรับลดภาษีจะช่วยกระตุ้นการเติบโตในระยะยาว
นอกจากนี้ ทรัสส์ยังเสริมต่อว่า เธอพร้อมสำหรับทำทุกสิ่งเพื่อทำให้มันเกิดขึ้น
แต่ทว่าพรรคแรงงานอังกฤษกดดันเรียกร้องให้ทรัสส์ และรัฐมนตรีคลังอังกฤษ คาวาซี กวาร์เต็ง ยกเลิกมาตรการลดภาษีครั้งมโหฬารนี้เสีย
ซึ่งในการออกมาแถลงครั้งแรกของผู้นำหญิงอังกฤษหลังการประกาศแผนการลดภาษี เธอยืนยันว่าพร้อมรับสำหรับการตัดสินใจที่ยากลำบากและอื้อฉาว ทรัสส์ ย้ำว่า สกุลเงินตราต่างประเทศอยู่ภายใต้ความกดดันทั่วโลก และมีความผันผวนทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในระดับโลก
ทั้งนี้ การตกลงของค่าเงินปอนด์อย่างหนักสัปดาห์ที่แล้วส่งผลทำให้เกิดความผันผวนในตลาด และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เมื่อวานนี้ (28) ตัดสินใจเข้ามาแทรกหยุดความผันผวนด้วยการประกาศใช้มาตรการชั่วคราวช้อนซื้อพันธบัตรรัฐบาล มูลค่า 65 พันล้านปอนด์ เพื่อพยุงกองทุนบำนาญอันเป็นหัวใจของประชาชนอังกฤษ
อ้างอิงจาก NHK ของญี่ปุ่นพบว่า นอกจากนี้ยังยกเลิกชั่วคราวแผนการเปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาลหลังราคาตกอย่างหนัก
ธนาคารกลางอังกฤษจะทำการซื้อพันธบัตรรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 14 ต.ค.
หนังสือพิมพ์เมโทรของอังกฤษอธิบายว่า กองทุนบำนาญนั้นขึ้นอยู่กับเสถียรภาพของพันธบัตรรัฐบาลในการจัดการ
ซึ่งแพกเกจลดภาษีมูลค่า 45 พันล้านปอนด์ของทรัสส์ที่จะใช้เงินส่วนใหญ่สนับสนุนมาจากเงินกู้สาธารณะ ทำให้สกุลเงินปอนด์ตกอย่างหนักและต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น
บีบีซีอธิบายว่า แผนการลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี ประกอบด้วย การตัดลดภาษีเงินได้นิติบุคคล มูลค่า 12,000 ล้านปอนด์ การตัดลดเงินนำส่งกองทุนประกันสังคมของอังกฤษลง มูลค่า 17,000 ล้านปอนด์ การตัดลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอัตราพื้นฐาน มูลค่า 5,000 ล้านปอนด์ และอัตรา 45% อีก มูลค่า 2,000 ล้านปอนด์
ค่าสกุลเงินปอนด์สเตอริงของอังกฤษวันพุธ (28 ก.ย.) ตกไปที่ 1.05 ดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศเข้าแทรกชั่วคราวด้วยจากการช้อนซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 65 พันล้านปอนด์ เพื่อหยุดความผันผวนของตลาดผล ส่งผลทำให้ค่าเงินปอนด์ดีดกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยภายหลังที่ 1.08 ดอลลาร์
บีบีซีรายงานว่า และเป็นเรื่องที่ไม่ปกตินักที่จะได้เห็นกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยต่อแผนการลดภาษีของรัฐบาลอังกฤษ โดยชี้ไปว่าอาจยิ่งสร้างผลเลวร้ายต่อวิกฤตค่าของชีพได้
IMF ซึ่งทำงานเพื่อคงเสถียรภาพเศรษฐกิจโลกและมีหน้าที่ออกมาเตือนล่วงหน้าทางเศรษฐกิจ
โดยในแถลงการณ์ IMF ระบุว่า เข้าใจว่าเป้าหมายของแพกเกจนี้มีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ทว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศเตือนว่า การลดภาษีจะช่วยยิ่งเร่งราคาค่าครองชีพให้ถีบตัวสูงขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษพยายามที่จะทำให้ลดลงมา
IMF กล่าวว่า การเผยแพร่แผนงบประมาณประจำปีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.นั้นทำให้ทางหน่วยงานสามารถประเมินซ้ำมาตการทางภาษี โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้สูงที่จะได้รับผลประโยชน์ แต่กระทรวงการคลังอังกฤษย้ำว่า "ทางเราตั้งเป้าไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มมาตรฐานชีวิตสำหรับทุกคน"
CNBC รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนรัฐบาลอังกฤษว่า “มาตรการเศรษฐกิจใหม่นี้จะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมมากขึ้น”