เอเจนซีส์ - การทดสอบป้องกันตัวเองจากโลกของนาซ่าประสบความสำเร็จวันจันทร์ (26 ก.ย.) หลังยานอวกาศขนาดเท่ารถกอล์ฟ DART ชนเข้ากับดาวแอสเตอรอยด์ "ไดมอร์ฟอส" (Dimorphos) ด้วยความเร็วราว 14,000 ไมล์/ชั่วโมง เป็นครั้งแรกที่โลกสามารถผ่านบททดสอบการป้องกันตัวเองจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยเพื่อป้องกันไม่เกิดซ้ำรอยเหมือน 65 ล้านปีก่อน
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ว่า ยานอวกาศ DART ไม่สามารถบันทึกภาพในช่วงเสี้ยววินาทีที่พุ่งชนเข้ากับดาวแอสเตอรอยด์ไดมอร์ฟอส (Dimorphos) ที่มีขนาดเท่าอนุสาวรีย์วอชิงตันและเดินทางด้วยความเร็วราว 14,000 ไมล์/ชั่วโมง
แต่ทว่ากล้องโทรทรรศน์ต่างๆ จากทั่วโลกที่ห่างออกไปราว 7 ล้านไมล์กำลังจับตาความเคลื่อนไหวอย่างไม่กะพริบพร้อมกับเสียงเฮดังลั่นเมื่อการระเบิดจากดาวแอสเตอรอยด์ (Asteroid) และมีซากชิ้นส่วนหลุดออกมาให้เห็นหลังการพุ่งชนแล้ว
ซึ่งถือเป็นโบนัสที่ได้จากวัตถุประสงค์หลักของการทดสอบกระบวนการป้องกันตัวเองจากโลกจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยในอนาคตที่ไดโนเสาร์เมื่อ 65 ล้านปีก่อนไม่สามารถทำได้จนทำให้เกิดการสูญพันธุ์ไป
ดาวเคราะห์น้อยคู่ฝาแฝดดีดิมอส (Didymos) ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส (Didymos) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 780 เมตร มีดาวเคราะห์น้อยอีกดวงซึ่งเป็นดาวบริวารโคจรอยู่รอบๆ ชื่อ ไดมอร์ฟอส โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าดาวเคราะห์น้อยคู่ฝาแฝดดีดิมอส อาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของดาวเคราะห์น้อยที่เคยพุ่งชนโลกเมื่อประมาณ 66 ล้านปีก่อน
ศาสตราจารย์สาขาดาราศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยฮาวาย จอห์น ทอนรีย์ (John Tonry) แสดงความเห็นว่า “กล้องโทรทรรศน์ของเราที่แอฟริกาใต้นั้นพวกเราแค่หันไปในทิศทางดาวแอสเตอรอยด์” และเสริมต่อว่า “พวกเราเริ่มต้นบันทึกทุก 40 วินาที”
และทันใดนั้นแสงสว่างจ้าออกมาจากเมฆหมอกของเศษซากที่กระจายขึ้นอวกาศผลจากการชนยานอวกาศ DART
อ้างอิงจาก space.com สื่อทางอากาศพบว่า โครงการ DART ที่ย่อมาจาก Double Asteroid Redirection Test เพื่อต้องการเปลี่ยนทิศทางการโคจรของไดมอร์ฟอส
ยานอวกาศ DART ที่มีขนาดเท่ารถกอล์ฟพุ่งชนแอสเตอรอยด์ไดมอร์ฟอสเมื่อเวลา 19.14 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ ของวันจันทร์ (26) ด้วยอัตราความเร็วที่ 14,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งนาซ่าตั้งความหวังว่ายานอวกาศ DART ที่มีน้ำหนัก 1,320 ปอนด์ หรือราว 600 กิโลกรัม จะสามารถเคลื่อนดาวแอสเตอรอยด์ไดมอร์ฟอสที่มีขนาดความกว้าง 163 เมตรให้สามารถโคจรเร็วขึ้นรอบดาวแม่ของตัวเอง "ดีดิมอส" ได้สำเร็จ
อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์สพบว่า เวลาการโคจรของไดมอร์ฟอสรอบดีดิมอสอยู่ที่ 11 ชั่วโมง 55 นาที และหลังการพุ่งชนจะทำให้ไดมอร์ฟอสมีวงโคจรใกล้กับดิดิมอสมากขึ้น และเชื่อว่าขนาดจะลดลงไปราว 1% ที่จะเป็นการคำนวณว่ายานอวกาศ DART จะทำให้ไดมอร์ฟอสสูญเสียวัตถุที่พื้นผิวไปมากเพียงใด
บรรยากาศภายในห้องควบคุมปฏิบัติการ DART ที่ JHUAPL เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายระหว่างยานอวกาศกำลังพุ่งเข้าชน ไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างการชนและทำให้วิศวกรนาซ่าไม่ต้องใช้ 1 ใน 21 แผนการเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมา
อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการนาซ่า ลินด์ลีย์ จอห์นสัน ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ป้องกันดวงดาว (Planetary Defense Officer) ของนาซ่ากล่าวแสดงความเห็นว่า "ความสำเร็จของ DART จะเป็นการเพิ่มเครื่องมือสำคัญให้พวกเราในการที่จะปกป้องโลกจากหายนะที่เกิดจากการพุ่งชนของดาวแอสเตอรอยด์"
space.com กล่าวว่า ส่วนใหญ่ของ 4 ชั่วโมงของการควบคุมยานอวกาศ DART เป็นแบบการควบคุมตัวเองอัตโนมัติโดยระบบนำร่องถูกล็อกเป้าไปที่ไดมอร์ฟอสในชั่วโมงสุดท้ายก่อนตกกระทบ กล้องหลักของ DART บีมภาพกลับสู่โลกทุกวินาทีจนกระทั่งสัญญาณขาดหายระหว่างการพุ่งชน
โครงการนี้มีมูลค่า 313 ล้านดอลลาร์ และถูกปล่อยสู่อวกาศเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ปี 2021