เอเจนซีส์ - ภาพดาวเทียมแม็กซาร์ เทคโนโลยีส์ แสดงภาพถ่ายดาวเทียมวันอาทิตย์ (25 ก.ย.) แสดงคิวยาวของรถราทึ่ติดขนัดบริเวณจุดข้ามพรมแดนระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย ขณะที่กองกำลังควบคุมพรมแดนฟินแลนด์ ชี้ตัวเลขประชาชนรัสเซียกว่า 8,000 คนภายในวันเดียวข้ามพรมแดนเข้าประเทศ ขณะที่วันจันทร์ (26 ก.ย.) ที่เมืองเอียร์คุตสค์ เขตไซบีเรีย รัสลัน ไซนิน (Ruslan Zinin) ชายหนุ่มรัสเซียวัย 25 ปี ถือปืนบุกกราดยิงสำนักงานเกณฑ์กำลังพลไซบีเรีย ไม่พอใจหนักหลังเพื่อนไม่เคยมีประวัติได้รับการฝึกจากกองทัพติดร่างแหโดนหมายเรียก
บิสซิเนสอินไซเดอร์ รายงานวานนี้ (26 ก.ย.) ว่า ขณะนี้ตามพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งฟินแลนด์ จอร์เจีย และมองโกเลีย ต่างคลาคล่ำไปด้วยรถราคิวแถวยาว หลังประชาชนรัสเซียที่ไม่ต้องการเข้าร่วมการสู้รบในยูเครนต่างพากันมุ่งหน้าหลบหนีออกนอกประเทศนับตั้งแต่วันพุธ (21) ที่ผ่านมา โดยภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดของบริษัมแม็กซาร์ เทคโนโลยีส์ (Maxar Technologies) ได้เปิดเผยกับบิสซิเนสอินไซเดอร์วันจันทร์ (26) แสดงถึงภาพคิวยาวของรถบรรทุกและรถส่วนบุคคลที่ทอดยาวบริเวณจุดข้ามแดนระหว่างรัสเซียและจอร์เจียวันอาทิตย์ (25)
นอกจากนี้ ในการเปิดเผยแม็กซาร์ยังแสดงภาพถ่ายบริเวณจุดข้ามแดนระหว่างรัสเซียและมองโกเลียทั้งก่อนและหลังการประกาศเรียกทหารกองหนุน 300,000 คนของผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เป็นการเปรียบเทียบระหว่างภาพที่ถูกถ่ายในวันที่ 15 ส.ค. และวันที่ 23 ก.ย.
โดยภาพของวันศุกร์ (23) ที่แล้วที่จุดข้ามแดนเข้ามองโกเลียเห็นแถวยาวหนาแน่นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนรัสเซียยังพยายามที่จะหนีผ่านเข้าฟินแลนด์เพื่อเข้าสู่สหภาพยุโรป แต่ทว่าฟินแลนด์วันศุกร์ (23) ได้ออกคำสั่งจำกัดจำนวนอย่างสูงต่อชาวรัสเซียที่ต้องการข้ามพรมแดนเข้าไป
Matti Pitkäniitty เจ้าหน้าที่สำนักงานปกป้องพรมแดนฟินแลนด์เปิดเผยวันจันทร์ (26) ว่า เฉพาะวันอาทิตย์ (25) มีชาวรัสเซียจำนวนกว่า 8,000 คนข้ามพรมแดนเข้าฟินแลนด์ เป็นตัวเลขที่สูงเป็น 2 เท่าของวันอาทิตย์ (18) ก่อนหน้าการประกาศเกณฑ์กำลังพล
Pitkäniitty เปิดเผยต่อว่า คนจำนวนมากที่เดินทางมาที่พรมแดนมีเป้าหมายเพื่อเดินทางต่อไปประเทศอื่น ทั้งนี้พบว่ามีประชาชนรัสเซียมากกว่า 5,000 คน ออกเดินทางจากรัสเซียวานนี้ (26)
“การจราจรทางบกพรมแดนฟินแลนด์-รัสเซียยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าหลายสัปดาห์ก่อนหน้า มีความไม่แน่นอนสูงเกี่ยวกับอนาคต สำนักงานปกป้องพรมแดนฟินแลนด์เตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นรวมไปถึงสถานการณ์ที่ยุ่งยาก”
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า ทางสำนักงานเปิดเผยว่า การจราจรข้ามพรมแดนในฝั่งตะวันออกของประเทศนั้นหนาแน่นมาตั้งแต่วันพุธ (21) ก่อนหน้า ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดีปูติน ประกาศสั่งเคลื่อนกำลังพลบางส่วนครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ ชี้ว่า ถึงแม้จะมีประชาชนจำนวนมากที่พยายามหลบหนีออกนอกประเทศผ่านพรมแดน แต่ทว่ามาจนถึงวานนี้ (26) เครมลินยังคงไม่มีการตัดสินใจที่จะปิดพรมแดน โดยโฆษกเครมลิน ดมิตรี เพสคอฟ กล่าวตอบนักข่าวเรื่องคำสั่งการปิดพรมแดนรัสเซียว่า
“ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับสิ่งนี้ ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจลงมา”
ซึ่งหนึ่งในชาวรัสเซียที่ให้ชื่อกับเอพีเพียงแค่ เดวิด (David) ที่จุดข้ามแดนเข้าจอร์เจียถึงสถานการณ์ภายในรัสเซียว่า “ตื่นตระหนก ทุกคนที่ผมรู้จักต่างรู้สึกตื่นตระหนก” และเสริมต่อว่า “พวกเรากำลังหนีจากรัฐบาลที่สังหารผู้คน”
ในรายงานชี้ว่า คิวแถวยาวยังพบได้ที่บริเวณจุดข้ามแดนคาซัคสถานเช่นกัน ซึ่ง เซอร์เก ทซีคอฟ (Sergei Tsekov) เป็นนักการเมืองอาวุโสรัสเซียให้เขตไครเมียในสภาสูงรัสเซียกล่าวแสดงความเห็นว่า
“ทุกคนที่อยู่ในอายุของหมายเกณฑ์สมควรต้องถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน” ทซีคอฟ กล่าว
ขณะที่สำนักข่าวรัสเซียที่ถูกแบน 2 แห่งได้แก่ เมดูซา (Meduza) และโนวายา กาเซตา ยุโรป (Novaya Gazeta Europe) ต่างรายงานอ้างว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียกำลังวางแผนห้ามชายชาวรัสเซียเดินทางออกนอกประเทศ
dw ของเยอรมันรายงานว่า เกิดเหตุไม่คาดฝันในวันจันทร์ (26) ที่ Ust-Ilimsk ในภูมิภาคเอเียรคุตสค์ (Irkutsk) เขตไซบีเรียใต้ เมื่อชายหนุ่มรัสเซียวัย 25 ปี รัสลัน ไซนิน (Ruslan Zinin) ถือปืนบุกเข้ากราดยิงภายในสำนักงานเรียกกำลังพล
โดยหญิงคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นแม่ของไซนินเปิดเผยว่า ลูกชายไม่พอใจอย่างมากหลังพบว่าเพื่อนรักของตัวเองถูกทางการรัสเซียเรียกเกณฑ์ทหารกองหนุน ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประวัติการเข้ารับการฝึกกับกองทัพแต่อย่างใด
สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างคำพูดของผู้เป็นแม่ว่า “พวกเขากล่าวว่ามันเป็นการเรียกกำลังพลบางส่วน แต่เอาเข้าจริงๆ กลับเป็นว่าพวกเขาเรียกตัวทุกคน”
มีรายงานจำนวนมากชี้ว่า ทางการรัสเซียสั่งเกณฑ์คนที่ไม่เคยมีประวัติเข้าร่วมกับกองทัพ แต่ทว่ารัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู อ้างว่า การเรียกตัวจะเกิดขึ้นเฉพาะในกลุ่มที่เคยได้รับการฝึกกับกองทัพเท่านั้น แต่ทว่า เพสคอฟโฆษกเครมลินกลับอ้างว่า มีบางส่วนเป็นความผิดพลาดทางเอกสารแต่ได้รับการแก้ไขจากเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคและระดับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ผู้ว่าการภูมิภาคเอียรคุตสค์ อีกอร์ คอบเซฟ (Igor Kobzev) เปิดเผยว่า หัวหน้าสำนักงานเรียกกำลังพลสาขาที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมกล่าวว่าเขารู้สึกอับอายต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและยืนยันว่า หนุ่มวัย 25 ปี ผู้ก่อเหตุจะต้องได้รับการลงโทษอย่างแน่นอน
นอกจากเหตุการณ์นี้แล้ว สกายนิวส์ สื่ออังกฤษ รายงานวันจันทร์ (26) ว่า มีการขว้างระเบิดโมโลตอฟ ค็อกเทล เข้าไปในสำนักงานเรียกเกณฑ์กำลังพลกองทัพในเมืองอูรูปินสค์ (Uryupinsk) โดยวิดีโอคลิปที่เผยแพร่ไปทั่วโลกโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่ามีชายคนหนึ่งขับรถเข้ามาที่ทางเข้าของที่ตั้งอาคารของรัฐซึ่งอยู่ย่านใจกลางเมือง ก่อนที่จะจุดระเบิดไม่กี่ลูกก่อนขว้างจากปากทางเข้าไปยังตัวอาคารสำนักงานกองทัพ
มีรายงานเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า อาคารดังกล่าวเกิดไฟไหม้เช้าวันจันทร์ (26) แต่มีความเสียหายไม่มากและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ก่อเหตุถูกจับกุม
สกายนิวส์รายงานว่า มีสำนักงานเกณฑ์กำลังพลไม่ต่ำกว่า 20 แห่งถูกจุดไฟเผาขณะที่การประท้วงต่อต้านขยายตัวเพิ่มท่ามกลางการทะลักหลบหนีออกนอกประเทศของกลุ่มผู้มีอายุอยู่ในช่วงตามข้อกำหนดเกณฑ์ทหาร