ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียลงนามบังคับใช้กฎหมายอาญาซึ่งกำหนดบทลงโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี สำหรับทหารรัสเซียที่ “จงใจยอมแพ้” ให้แก่ฝ่ายศัตรู ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในสงครามยูเครน
มาตรการดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นหลังจากที่ ปูติน ประกาศเรียกระดมพลบางส่วน (partial mobilization) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อเกณฑ์ชายฉกรรจ์เข้าทำสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 7 เดือน และไม่เป็นไปตาม “สคริปต์” ที่มอสโกวางไว้
สำนักข่าว TASS ของรัสเซียอ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352.1 ซึ่งระบุว่า บรรดาทหารเกณฑ์เหล่านี้จะได้รับโทษจำคุกระหว่าง 3-10 ปี หากมีเจตนายอมแพ้ แต่หากเป็นผู้กระทำความผิดครั้งแรก และสามารถหลบหนีกลับมายังกรมกองได้โดยไม่ได้กระทำความผิดอื่นๆ ในระหว่างที่ตกเป็นเชลย ก็จะถือเป็นข้อยกเว้น
“นี่คือแผนการเล่นคลาสสิกของ ปูติน” รีเบกาห์ คอฟเลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองกลาโหมของสหรัฐฯ (DIA) ซึ่งเป็นผู้แต่งหนังสือ ‘Putin’s Playbook: Russia’s Secret Plan to Defeat America’ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ดิจิทัล
“มันคือการตัดสินใจอันยากลำบากที่ชายชาวรัสเซียต้องเผชิญในวันนี้ คือเลือกว่าจะตายในสนามรบ หรือไม่ก็เน่าอยู่ในคุก”
คอฟเลอร์ เชื่อว่า นโยบายนี้จะไม่ช่วยพลิกสถานการณ์ให้รัสเซีย ซึ่งตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำมากขึ้นหลังจากถูกยูเครนโจมตีตอบโต้อย่างหนักในเดือน ก.ย. และยังอาจจะส่งผลเสียต่อมอสโกและกองทัพของพวกเขาในระยะยาวด้วย
แม้ ปูติน จะยอมเซ็นกฤษฎีกายกเว้นนักศึกษาจากการเกณฑ์ทหาร แต่ยังคงมีชายรัสเซียอีกจำนวนมากที่ต้องถูกเกณฑ์ไปรบ ซึ่ง คอฟเลอร์ มองว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจจะก่อ “วิกฤตด้านประชากรศาสตร์” ตามมาในอนาคต
อัตราการเจริญพันธุ์ (fertility rate) ของรัสเซียอยู่ที่ 1.5 ในปัจจุบัน ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 2.1 ที่จะทำให้ประเทศหนึ่งๆ สามารถคงจำนวนประชากรไว้เท่าเดิมได้
“การทำลายล้างประชากรเพศชายในช่วงอายุ 18-55 ปี ซึ่งเป็นระยะของการมีบุตร ถือเป็นการกระทำที่ก่อหายนะในทางยุทธศาสตร์... มันจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่เพียงต่อกองทัพรัสเซียเท่านั้น แต่รวมถึงอนาคตของสังคมรัสเซียด้วย นี่คือโศกนาฏกรรมสำหรับชาวรัสเซียโดยแท้” เธอกล่าว
ที่มา : Fox News, TASS