เอพี - ค่าเงินสกุลปอนด์สเตอริงของอังกฤษตกลงต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อช่วงต้นของวันจันทร์ (26 ก.ย) หลังรัฐมนตรีคลังอังกฤษคนใหม่ ควาซี กวาร์เต็ง (Kwasi Kwarteng) ประกาศลดภาษีครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี ตามนโยบายหาเสียงของผู้นำหญิงอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ส่งให้ปอนด์ตกลงต่อ 1.037 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะสามารถกลับขึ้นมาได้เล็กน้อย
เอพีรายงานวันนี้ (26 ก.ย.) ว่า ความวิตกอังกฤษกำลังคืบคลานเข้าใกล้เศรษฐกิจถดถอยมีมากขึ้น เมื่อค่าเงินสกุลปอนด์สเตอริงอังกฤษในวันจันทร์ (26) ตกลงไปถึง 1.0373 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะสามารถดีดกลับมาได้ที่ 1.0672 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นของการซื้อขายที่กรุงลอนดอน
เป็นการตกลงของค่าสกุลเงินอังกฤษนับตั้งแต่ปี 1971
เอพีชี้ว่า สกุลเงินปอนด์สเตอริงเสียไปกว่า 5% ของค่าเงินต่อดอลลาร์สหรัฐมาตั้งแต่วันศุกร์ (23) เกิดขึ้นเมื่อรัฐมนตรีคลังอังกฤษคนใหม่ ควาซี กวาร์เต็ง (Kwasi Kwarteng) ประกาศลดภาษีครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี
เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟของนายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ วางแผนที่จะใช้เงินหลายพันล้านปอนด์เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคและธุรกิจที่กำลังประสบปัญหากับค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูง ส่งผลทำให้วิกฤตค่าครองชีพสาหัสมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เหล่านักลงทุนวิตกต่อหนี้สาธารณะของรัฐบาลลอนดอน
นายกฯ ทรัสส์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำอังกฤษคนใหม่เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนหน้ากำลังเดิมพันด้วยการลดภาษีและลดระบบราชการเพื่อเร่งการเติบโตเศรษฐกิจอังกฤษให้มีความแข็งแกร่งและส่งผลดีต่อภาษีรายได้อย่างเพียงพอเพื่อครอบคลุมรายจ่ายของรัฐบาล แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างชี้ว่า "แผนการที่ว่าอาจจะไม่เป็นตามที่หวัง"
ราเชล รีฟส์ (Rachel Reeves) โฆษกด้านเศรษฐกิจของพรรคแรงงานอังกฤษซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านโจมตีว่า รัฐมนตรีคลังอังกฤษคนใหม่ ควาซี กวาร์เต็ง จะยิ่งช่วยเร่งโหมความไร้เสถียรภาพด้วยการกล่าวถึงการลดภาษี พร้อมชี้ว่า นโยบายรัฐบาลอังกฤษนั้นไม่รอบคอบ
แต่ทว่ากวาร์เต็ง ยืนยันในวันอาทิตย์ (25) ว่า เขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลลอนดอนกระทำอย่างมีความรับผิดชอบ
“มันจะมีมากกว่านี้” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซี และเสริมต่อว่า “พวกเราเพิ่งอยู่ที่นี่ได้ 19 วันเท่านั้นซึ่งผมต้องการเห็นว่าในปีหน้าประชาชนอังกฤษจะมีรายได้มากขึ้นเพราะผมเชื่อว่า เป็นประชาชนเท่านั้นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
ในขณะที่รัฐบาลอังกฤษมีแผนที่จะลดภาษีในเวลาเดียวกันรัฐบาลจะจำกัดเพดานราคาค่าไฟและแก๊สธรรมชาติสำหรับครัวเรือนและธุรกิจเพื่อช่วยพยุงราคาที่เพิ่มสูงผลมาจากสงครามยูเครนส่งผลให้อัตราเงินเฟ้ออังกฤษสูงสุดในรอบ 40 ปีที่ 9.9%
อ้างอิงจากกวาร์เต็ง พบว่า รัฐบาลอังกฤษต้องใช้เงินถึง 60 พันล้านปอนด์สำหรับโครงการนี้ซึ่งรัฐบาลอังกฤษจะต้องกู้ยืมเพื่อใช้ในโครงการนี้
รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวยืนยันว่า ลอนดอนกระทำอย่างถูกต้องและมาอย่างถูกทางสำหรับนโยบายนี้ เพราะรัฐบาลของทรัสส์ต้องการช่วยแบ่งเบาภาระผู้บริโภคที่ถูกบีบรัดจากภาวะที่คาดไม่ถึงจากสงครามยูเครน และวิกฤตโควิด-19
ในการให้สัมภาษณ์วานนี้ (25) กวาร์เต็งยืนยันว่า รัฐบาลลอนดอนสามารถแบกภาระต้นทุนนี้ได้แน่นอนและในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ทางรัฐบาลจะเปิดเผยแผนสำหรับการลดหนี้สาธารณะ
การตกลงอย่างหนักของค่าเงินปอนด์อังกฤษยังเกิดมาจากสาเหตุจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษไม่สามารถทำให้ตัวเองเดินไปพร้อมกับความพยายามของเฟดสหรัฐฯ ในการควบคุมวิกฤตเงินเฟ้อ
วันพฤหัสบดี (22) ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เมื่อเทียบกับการขึ้นของเฟดสหรัฐฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทว่าอังกฤษมีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ และธนาคารได้เคยออกมาคาดการณ์ว่า อังกฤษจะเริ่มเข้าสาภาวะถดถอยภายหลังในปีนี้