เอเจนซีส์ - คำสั่งการเรียกทหารกองหนุนรัสเซียเข้าประจำการวันพุธ (21 ก.ย.) อาจส่งผลทำให้ครึ่งหนึ่งของพนักงานสายการบินยักษ์ใหญ่รัสเซียต้องเข้าร่วมกองทัพเพื่อรบในยูเครน ท่ามกลางการไหลออกอย่างไม่หยุดของประชาชนรัสเซียที่ไม่เห็นด้วย ฟินแลนด์วันศุกร์ (23 ก.ย.) เริ่มจำกัดการข้ามพรมแดนจากฝั่งรัสเซีย ทนายความจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโชคร้ายข้ามไปไม่ทันโดนส่งตัวกลับ
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ว่า ในรายงานของหนังสือพิมพ์รัสเซีย คอมเมอร์ซานต์ (Kommersant) ฉบับวันศุกร์ (23) ระบุว่า คำสั่งเคลื่อนกำลังพลบางส่วนของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน อาจกระทบถึงกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัทสายการบินยักษ์ใหญ่รัสเซียทีเดียว
ทั้งนี้ พบว่าพนักงานของบริษัทสายการบินรัสเซีย 5 แห่งเป็นอย่างน้อย รวมถึงบริษัทสายการบินแอร์โรฟลอต ได้รับแจ้งหมายเรียกเกณฑ์ทหารภายในวันเดียวกันกับที่ปูติน ออกแถลงการณ์วันพุธ (21)
โดยแหล่งข่าวเปิดเผยกับคอมเมอร์ซานต์ว่า ตัวเลขราว 50-80% ของพนักงานแอโรฟลอตเชื่อว่าได้รับหมายเกณฑ์ทหารเพื่อไปรบแนวหน้าที่ยูเครน
แหล่งข่าวภายในใกล้ชิดกับแอโรฟลอตชี้ว่า กว่าครึ่งของพนักงานในบริษัทสายการบินรัสเซีย 3 แห่ง รวมถึงบริษัทสายการบินรอสซิยา (Rossiya) และบริษัทสายการบินโปเบดา (Pobeda) ตามการรายงานอาจถูกเรียกตัว
หนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซานต์รายงานว่า บริษัทอื่นอีกไม่ต่ำกว่า 5 แห่งเริ่มต้นรวบรวมบัญชีสำหรับพนักงานที่จะได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหาร โดยรอยเตอร์รายงานว่า นักบินส่วนใหญ่ของบริษัทสายการบินทั้งหลายต่างได้รับการฝึกฝนทางการทหารหรือเสร็จสิ้นจากการรับใช้ชาติเข้าร่วมกองทัพรัสเซียทั้งสิ้น
ทนายความสิทธิมนุษยชน พาเวล ไชคอฟ (Pavel Chikov) กล่าวผ่านทางแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า หลังคำประกาศจากปูติน พบว่า มีเจ้าหน้าที่การแพทย์มอสโกได้รับคำสั่งเรียกตัวให้ไปรับหมายการเกณฑ์ทหาร
และมีบริษัทแห่งหนึ่งได้แจ้งไปยังพนักงานของตัวเองระบุว่า “พวกเรามีกลุ่มพนักงานที่ได้รับการเรียกตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ ทุกคนสมควรต้องรู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีโอกาสถูกเรียกในวันรุ่งขึ้นและจะไม่สามารถมาทำงานได้ในวันถัดไป”
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า ตั๋วเดินทางเที่ยวบินจากรัสเซียถูกขายหมดเกลี้ยงหลังปูตินสั่งเรียกการเคลื่อนพล ขณะที่ฟินแลนด์วันศุกร์ (23) เริ่มจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนจากรัสเซียอย่างหนักหลังมีการเดินทางเข้ามาไม่หยุดจนต่อแถวยาวจากประชาชนรัสเซียที่ไม่เห็นด้วย
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานผ่านการเผยแพร่บนยูทูบวันนี้ (25) ว่า ทนายความรัสเซียรายหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับผู้นำรัสเซียได้ออกเดินทางจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กทางรถตั้งแต่เช้าวันเสาร์ (24) เพื่อต้องการข้ามพรมแดนเข้าไปยังฟินแลนด์ แต่ทว่าเขาโชคไม่ดีถูกส่งตัวกลับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เขาได้มีโอกาสอยู่ภายในดินแดนสหภาพยุโรปเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเนื่องมาจากเขามีวีซ่าผิดประเภทเพื่อเดินทางเข้าไปยังเยอรมนีเพื่อขอลี้ภัยที่นั่น
อาร์ตยอม (Artyom) แสดงความรู้สึกที่พรมแดนฟินแลนด์ว่า ผมได้รับหมายเกณฑ์แจ้งให้เข้ากองทัพเพื่อทำสงครามในยูเครนเป็นเพราะผมมีหนังสือปลดประจำการจากกองทัพ และคนอื่นเหมือนเช่นตัวผมจะถูกเรียกตัวระลอกแรก
เขากล่าวต่อว่า “ผมเลือกที่จะไปคุกมากกว่าจะไปยูเครน ถึงแม้พวกเขาจะทรมานผมหรือยิงผมก็ตาม”
และกล่าวต่อว่า สิ่งเดียวที่จะทำให้เขาสงบลงได้คือการได้อยู่ร่วมกับครอบครัวก่อนที่ตัวเขาจะถูกจับไป
อัลญะซีเราะฮ์กล่าวว่า สถานการณ์วันเสาร์บริเวณพรมแดนฟินแลนด์นั้นค่อนข้างเงียบสงบ ต่างจากของจอร์เจียที่มีการข้ามแดนจากรัสเซียเข้าไปอย่างคึกคักจากการที่เฮลซิงกิประกาศจะหยุดประชาชนรัสเซียเดินทางเข้ามาด้วยการใช้วีซ่าเชงเก้นประเภทท่องเที่ยว ซึ่งจำนวนผู้ที่เดินทางเข้าฟินแลนด์ก่อนวันเสาร์ (24) เพิ่มเป็น 2 เท่าของแต่ละวัน