เอเจนซีส์ - ทหารกองหนุนรัสเซียที่ถูกเกณฑ์ชุดแรกเริ่มต้นถูกส่งขึ้นรถบัสทันที พบภาพสุดสลดประชาชนชาวเมืองยาคุตสค์ในไซบีเรียที่หนาวสุดในโลก มีเวลาแค่ 4 ชั่วโมงก่อนถูกจับขึ้นรถบัสท่ามกล่างเสียงร้องไห้ระงม ฮือฮาหญิงรัสเซียลูก 5 โดนขอแต่งทันทีหลังกฎชี้ "ชายรัสเซียลูกสามไม่ต้องออกรบ" ขณะที่รายงานข่าวกรองลับเพนตากอนที่ดักฟังการสื่อสารได้พบ “ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน” ออกสั่งการนายพลรัสเซียที่อยู่แนวหน้าด้วยตัวเองจากกรุงมอสโก สร้างความสับสนในระดับบัญชาการ
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (23 ก.ย.) ว่า กองทัพรัสเซียในเวลานี้อยู่ท่ามกลางความสับสนในยุทธวิธีที่จะเอาคืนโต้การรุกคืบอย่างคาดไม่ถึงของยูเครนที่เกิดขึ้นเดือนนี้ได้อย่างไร อ้างอิงจากแหล่งข่าวหลายปากใกล้ชิดกับข่าวกรองสหรัฐฯ และชาติตะวันตก
โดยในการดักฟังการสื่อสารของฝ่ายรัสเซียได้ พบว่า เจ้าหน้าที่การทหารรัสเซียกำลังโต้เถียงเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และการสั่งการจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ด้วยตัวเองจากกรุงมอสโก
CNN ชี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเป็นอย่างมากในการทำสงครามยุคใหม่สำหรับยุทธศาสตร์การจัดการโดยแหล่งข่าวได้อ้างไปถึงผลที่แสดงออกมาจากความล้มเหลวของโครงสร้างสายบัญชาการที่ส่อหายนะมาตั้งแต่เริ่มต้นการศึกเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ต้นปี
อ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิด 2 ปากที่ระบุว่า “ปูตินเป็นผู้สั่งการด้วยตัวเอง” ต่อบรรดานายพลรัสเซียในสมรภูมิ
ในการดักฟังพบว่า เจ้าหน้าที่การทหารรัสเซียไม่เห็นด้วยอย่างเห็นได้ชัดต่อยุทธวิธีซึ่งบรรดาผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพรัสเซียพยายามอย่างยากลำบากในการที่จะเห็นด้วยถึงจุดที่ควรให้ความสนใจเพื่อที่จะทำให้มีความได้เปรียบมากขึ้นในการรบ อ้างอิงจากหนึ่งในแหล่งข่าวที่เปิดเผยกับ CNN
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานในรายละเอียดว่า ในรายงานกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงกองทัพรัสเซียได้ตอบโต้ด้วยการแทนที่จะกล่าวโทษไปที่ปูติน แต่กลับโยนความผิดพลาดไปให้ฝ่ายอื่นแทน
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงนาโต้ให้สัมภาษณ์กับ CNN มีใจความว่า
“เจ้าหน้าที่เครมลินและบรรดาผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสื่อรัสเซียต่างถกเถียงไปถึงเหตุผลในความล้มเหลวที่คาร์คิฟ (Kharkiv) และรูปแบบ ซึ่งเครมลินดูเหมือนพยายามที่จะทำให้ปูติน ออกห่างจากคำตำหนิ และส่งคำตำหนิเหล่านี้ไปยังกองทัพรัสเซียแทน”
บิสซิเนสอินไซเดอร์ชี้ว่า คำสั่งการด้วยตัวเองของปูติน ต่อบรรดานายพลรัสเซียที่สนามรบสร้างความสับสนให้กลุ่มผู้บัญชาการทั้งหลาย
ปูตินช็อกโลกด้วยการประกาศเคลื่อนพลบางส่วนเช้าวันพุธ (21) เรียกทหารกองหนุนรัสเซียจำนวน 300,000 คนเข้าประจำการเพื่อส่งไปรบยูเครน ส่งผลทันทีทำให้เกิดการประท้วง เมโทรสื่ออังกฤษรายงานว่า มีชาวรัสเซียร่วมหลายหมื่นคนพยายามหนีออกนอกรัสเซีย พบบริเวณพรมแดนติดฟินแลนด์ จอร์เจีย และมองโกเลียมีคิวยาวเหยียดต่อนานร่วม 5 ชั่วโมง
ขณะที่สนามบินนั้นเฉพาะผู้โชคดีเท่านั้นที่สามารถซื้อตั๋วบินเที่ยวเดียวได้ทัน เพราะตั๋วเครื่องบินโดยสารออกจากรัสเซียขายหมดเกลี้ยง
แต่ถึงกระนั้นเพราะสื่ออังกฤษชี้ว่า คนเหล่านี้จะถูกห้ามจากการเดินทางออกนอกประเทศถึงแม้พวกเขาจะมีตั๋วเครื่องบินและวีซ่าไปประเทศนั้นก็ตาม
CNN อ้างอิงความเห็นจากนักวิเคราะห์ทางการทหารว่า คำสั่งเรียกทหารกองหนุนอย่างปัจจุบันทันด่วนของปูตินเป็นการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาจากเครมลินว่า ปฏิบัติการพิเศษทางการทหารในยูเครนนั้นล้มเหลวและจำเป็นต้องปรับปรุง
ไมเคิล คอฟแมน (Michael Kofman) ผู้อำนวยการโครงการรัสเซียศึกษาประจำศูนย์วิเคราะห์ทางนาวี (Center for Naval Analyses) กล่าวว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ายุทธศาสตร์การเรียกทหารกองหนุนนี้จะประสบความสำเร็จ เพราะถึงแม้จะแก้ปัญหาในด้านกำลังพลในระยะสั้นได้ แต่กระนั้นรัสเซียยังต้องประสบปัญหาการฝึกซ้อม การติดอาวุธ และการทำให้ทหารเกณฑ์ชุดใหม่สามารถปรับเข้ากับกองกำลังรัสเซียที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ให้ได้
แต่ถึงแม้จะพิจารณาจากสถานการณ์ที่ดีที่สุด เครมลินยังต้องใช้เวลานานสำหรับทหารชุดใหม่ในสนามรบจริง เขากล่าว
“ผมคิดว่ามันเป็นการสมเหตุสมผลที่จะกล่าวว่า การเคลื่อนพลบางส่วนจะไม่สะท้อนตัวเองในสนามรบในช่วงเวลาไม่กี่เดือนในช่วงแรกสุด และสามารถขยายความสามารถรัสเซียในสงครามนี้ แต่ทว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงผลของมัน”
CNN ชี้ว่า ไพ่ไม้เด็ดของผู้นำรัสเซียยังคงถูกวางอยู่บนโต๊ะในเช้าวันพุธ (21) เพราะปูตินยังคงประกาศซ้ำจะใช้ "อาวุธนิวเคลียร์" เป็นคำขู่ที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญอย่างจริงจังแต่พวกเขากล่าวว่า ยังไม่เห็นการบ่งชี้ในตอนนี้ว่าปูตินกำลังเตรียมการวางแผนที่จะใช้
เมโทรรายงานคลิปภาพการส่งทหารกองหนุนรัสเซียชุดแรกจากเมืองยาคุตสค์ (Yakutsk) ในไซบีเรียที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่หนาวสุดในโลก โดยคำสั่งเกณฑ์นั้นมีผลบังคับใช้ทันทีและทางการรัสเซียให้เวลาแค่ 4 ชั่วโมงสำหรับการร่ำลาครอบครัวก่อนขึ้นรถบัส
เมโทรชี้ว่า ชาวรัสเซียในเขตตะวันออกไกลที่ถูกบันทึกภาพไว้ได้กำลังเริ่มต้นการเดินทางไปยูเครน หลังจากถูกเรียกเกณฑ์และรับการฝึกที่ศูนย์กองทัพรัสเซียแล้ว
มีรายงานว่ามีผู้มีคุณสมบัติไม่ผ่านสำหรับการเกณฑ์กำลังพลเช่นกัน โดยที่เมืองอุสซูริสค์ (Ussuriysk) แพทย์ผ่าตัดฉุกเฉินคนหนึ่งวัย 62 ปี ที่ตามทฤษฎีต้องไม่ผ่านคุณสมบัติเกณฑ์ทหาร ถูกทางการรัสเซียให้เวลาแค่ 4 ชั่วโมงในการเก็บของ หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่รัสเซียปลอมตัวเป็นคนไข้เข้ามาที่คลินิกของเขา
นอกจากนี้ ในหลายกรณีถูกปลุกให้ไปเกณฑ์ทหารจากโทรศัพท์กลางดึกและในกลุ่มคนที่ไม่ยอมเปิดประตูเพื่อรับหมายจะได้รับการยื่นคำสั่งเมื่อคนเหล่านี้เดินทางมาถึงที่ทำงานเช้าวันพฤหัสบดี (22)
เมโทรรายงานว่า คำสั่งเกณฑ์ทหารกองหนุนรัสเซียจะยกเว้นสำหรับชายรัสเซียที่มีบุตรมากกว่า 3 คน โดย อันนา (Anna) ชาวมอสโกเล่าอย่างติดตลกว่า “เพื่อนของเธอคนหนึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 5 คน จู่ๆ ก็ได้รับคำขอแต่งงานวันนี้”
และกล่าวว่า “เธอหัวเราะอย่างหนักเมื่อเพื่อนเล่าให้ฟัง และกล่าวต่อว่า มันคงจะเป็นเทรนด์ที่นิยมมากในอนาคตอันใกล้” พร้อมชี้ว่า “มันดูเหมือนว่าชายที่มีบุตรมากกว่า 3 คนจะไม่ต้องถูกเรียกตัว”