รถบัสจีนประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำขณะกำลังพาคนไปยังศูนย์กักตัวโควิด-19 เมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 27 ราย
ทางการจีนระบุว่า รถบัสคันดังกล่าวพาชาวบ้าน 47 คน จากเมืองกุ้ยหยาง เมืองหลวงของมณฑลกุ้ยโจว ไปยังศูนย์กักตัวโควิด-19 ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 249 กิโลเมตร ก่อนจะประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนเส้นทางที่ตัดผ่านภูเขาเมื่อเวลาประมาณ 2.40 น.
รายงานไม่ได้ระบุชัดเจนว่า เหตุใดรถบัสจึงต้องออกเดินทางในช่วงกลางดึกบนเส้นทางที่คดเคี้ยว อีกทั้งกฎหมายจราจรของจีนก็ห้ามไม่ให้รถโค้ชที่วิ่งในเส้นทางระยะไกลใช้ถนนระหว่าง 2.00-5.00 น.
สำนักข่าว CNN อ้างถึงภาพต่างๆ ที่ถูกแชร์ในสื่อออนไลน์ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารถบัสคันดังกล่าวขับไปบนท้องถนนในยามค่ำคืน โดยพนักงานขับรถสวมชุดป้องกันซึ่งเปิดเฉพาะดวงตาเท่านั้น และยังมีภาพซากรถบัสที่หลังคาพังยับเยินกำลังถูกลากไปเก็บ โดยมีเจ้าหน้าที่ยืนฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ
CNN ไม่ยืนยันว่าภาพเหล่านี้เป็นของจริงหรือไม่ แต่ระบุว่าเลขทะเบียนของรถในภาพตรงกันกับข้อมูลที่ทางการจีนเผยแพร่
อุบัติเหตุซึ่งทำให้มีคนตายหมู่ครั้งนี้จุดกระแสวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์จีน โดยชาวเน็ตตั้งคำถามว่านโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ซึ่งหมายถึงการสั่งล็อกดาวน์ ตรวจเชื้อประชากรจำนวนมากๆ และส่งคนไปเข้าศูนย์กักตัวเพื่อยับยั้งการระบาด เป็นวิธีควบคุมโรคที่เกินเหตุไปหรือไม่
“พวกคุณคิดไหมว่า วันหนึ่งตัวคุณเองอาจจะต้องไปนั่งอยู่บนรถบัสรอบดึกบ้างเหมือนกัน” ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าว
คอมเมนต์นี้ได้ถูกแชร์จนเป็นไวรัล และมีผู้กดไลก์มากกว่า 250,000 ครั้ง ก่อนที่จะถูกทางการจีน “เซ็นเซอร์” ขณะที่สื่อของรัฐบาลจีนที่เคยรายงานข่าวนี้ก็ทยอยปิดช่องคอมเมนต์กันเป็นแถว
แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้ชมแล้วกว่า 450 ล้านวิวในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (18) แต่เมื่อคลิกเข้าไปดูจะเห็นได้แค่โพสต์ของหน่วยงานรัฐบาลเท่านั้น
มณฑลกุ้ยโจวพบผู้ป่วยโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 712 คนเมื่อวันเสาร์ (17) ซึ่งคิดเป็น 70% ของยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งประเทศ และมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 9 รายถูกสั่งพักงานไปแล้วในเดือนนี้ โทษฐานไม่บังคับใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเหมาะสม
ที่มา : CNN
