อีกหนึ่งข่าวไวรัลที่ชาวโซเชียลจีนวิจารณ์สนั่น หลังแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในจีนวินิจฉัยเด็กน้อยเป็น “เนื้องอก” ในช่องปาก ทำเอาคนเป็นพ่อแม่ใจหาย สุดท้ายตรวจไปตรวจมาพบว่าเป็นแค่ “เม็ดบัว” ติดอยู่บนเพดานปากซะงั้น
ปักกิ่งไทม์สรายงานว่า ครอบครัวของหนูน้อยแซ่ “เฉิน” วัย 11 เดือน ไปเจอก้อนสีน้ำตาลติดอยู่ที่เพดานปากของเด็กน้อยเมื่อปลายเดือน ส.ค. จึงได้พาเขาไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลเซียงหยา (Xiangya Hospital) ในเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ปรากฏว่าคุณหมอตรวจดูแล้วบอกว่าเป็นเนื้องอกแต่กำเนิด (congenital tumour) และแนะนำให้ผ่าตัดเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจวินิจฉัย
อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลบอกให้รอคิวผ่าตัดแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากเตียงเต็ม
“ผมเลยคิดว่าจะพาลูกไปพบหมอที่โรงพยาบาลอื่น” พ่อของ เฉิน ให้สัมภาษณ์
ครอบครัวตัดสินใจพา เฉิน ไปที่โรงพยาบาล Hunan Provincial People’s Hospital โดยหวังว่าจะได้คิวผ่าตัดเร็วขึ้น แต่ระหว่างที่ตรวจซ้ำในโรงพยาบาลแห่งใหม่นั้นเอง เจ้าก้อนประหลาดที่เพดานปากก็หลุดออกมา และหมอพบว่ามันเป็นแค่ “เม็ดบัว” ธรรมดาๆ
พ่อแม่ของ เฉิน เชื่อว่า ลูกชายคงจะเผลอหยิบเม็ดบัวเข้าปาก ตอนที่พวกเขาซื้อเม็ดบัวมากินเล่นระหว่างไปเที่ยวต่างจังหวัดเมื่อเดือน ส.ค.
ครอบครัว เฉิน ได้ออกมาตำหนิคุณหมอที่โรงพยาบาลแห่งแรกว่าวินิจฉัย “ผิดพลาดอย่างร้ายแรง” จนทำให้พวกเขาต้องวิตกกังวลโดยใช่เหตุ พร้อมขอให้ทางโรงพยาบาลออกมาอธิบายเรื่องนี้
ล่าสุด ทางโรงพยาบาลเซียงหยาบอกกับปักกิ่งไทม์สว่า “กำลังสอบสวนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะชี้แจงให้ครอบครัว เฉิน ทราบในภายหลัง”
เรื่องนี้ยังให้โรงพยาบาลเซียงหยาและคุณหมอถูกชาวเน็ตรุมถล่มยับเรื่องการตรวจวินิจฉัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
“วินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกนี่เรื่องใหญ่นะ ตรวจให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยสรุปไม่ได้หรือไง?” ชาวเน็ตรายหนึ่งตั้งคำถาม ขณะที่อีกคนกระเซ้าว่าคงต้องเอาเม็ดบัวไป “ตรวจดีเอ็นเอล่ะมั้ง”
อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตบางคนโพสต์ข้อความเห็นใจโรงพยาบาลว่าอาจจะมีทรัพยากรจำกัด อีกทั้งโรงพยาบาลของรัฐก็มักจะมีคนไข้ไปเข้าคิวรอตรวจเป็นจำนวนมาก จึงอาจทำให้คุณหมอรีบร้อนเกินไป
ที่มา : South China Morning Post