เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย พระราชโอรสหัวปีของพระองค์ คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ก็ทรงขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่โดยทันที ความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงในสถาบันกษัตริย์อังกฤษครั้งนี้ ส่งผลให้พระฐานันดรศักดิ์ของพระบรมวงศานุวงศ์ระดับสูงมีการปรับเปลี่ยนตามไปเป็นสายๆ
คุณอาร์ชี และคุณลิลิเบต เมาท์แบทเทน-วินด์เซอร์ พระโอรสและพระธิดาของเจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสเมแกน ก็ได้รับอานิสงส์ด้วย โดยในทางเทคนิคนั้น สามารถถือได้ว่าทั้งสองเป็นเจ้าชายอาร์ชีและเจ้าหญิงลิลิเบตแล้ว แต่การจะได้เป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงอย่างเต็มตัวยังต้องขึ้นอยู่กับเสด็จปู่ผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน และในขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์จะทรงดำเนินการอะไร ซึ่งอาจส่งผลให้ลงเอยกลายเป็นว่า ในท้ายที่สุดแล้ว คุณอาร์ชี และคุณลิลิเบต ไม่ได้เป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง
ในช่วงที่สมเด็จพระราชินีนาถควีนเอลิซาเบธที่ 2 ยังทรงมีพระชนม์ชีพ คุณอาร์ชี และคุณลิลิเบตมิได้รับพระฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง เพราะทั้งสองเป็นพระราชปนัดดา (เหลนทวด) ของพระเจ้าแผ่นดิน แต่อยู่ในสายของพระโอรสสุดท้องของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ที่เสด็จปู่ของคุณอาร์ชี และคุณลิลิเบต เสด็จขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ปัจจุบัน คุณอาร์ชี และคุณลิลิเบตจึงมีฐานะใหม่ คือ เป็นพระราชนัดดา (หลานปู่) ของพระเจ้าแผ่นดิน คุณสมบัติที่เปลี่ยนไปนี้เข้ากฎเกณฑ์แห่งพระราชสำนักที่ทำให้คุณอาร์ชี และคุณลิลิเบตมีสิทธิใช้ยศเจ้าชายและเจ้าหญิงได้แล้ว
สื่อมวลชนค่ายต่างๆ จึงพากันตั้งประเด็นชี้ขึ้นว่า คุณอาร์ชี และคุณลิลิเบต เป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงในทางเทคนิคแล้ว
กฎเกณฑ์แห่งพระราชสำนักที่กล่าวถึงเป็นข้อกำหนดในพระราชวินิจฉัยที่ตราไว้โดยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 เมื่อปี 1917 ซึ่งสรุปสั้นๆ ได้ว่าพระฐานันดรศักดิ์แห่งเจ้าชาย-เจ้าหญิงจะใช้ได้กับ
1.พระราชโอรส-พระราชธิดาของกษัตริย์ (เช่น เจ้าฟ้าชายและเจ้าฟ้าหญิงของควีนเอลิซาเบธ)
2.พระโอรส-พระธิดาของพระโอรสแห่งกษัตริย์ (เช่น หลานย่าของควีนเอลิซาเบธเท่านั้น ดังนั้น พระโอรส-พระธิดาของเจ้าฟ้าหญิงแอน ไม่ได้เป็นเจ้าชาย-เจ้าหญิง)
3.พระโอรสหัวปี ของ พระโอรสพระองค์โต ของเจ้าฟ้าชายพระองค์ใหญ่ (เช่น เจ้าชายจอร์จ พระโอรสของเจ้าชายวิลเลียมผู้เป็นพระโอรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์)
พร้อมกันนี้ สมเด็จพระราชินีนาถทรงมีพระราชวินิจฉัยแก้ไขไว้ตั้งแต่ก่อนเจ้าชายจอร์จจะทรงประสูติ โดยทรงขยายสิทธิให้ครอบคลุมถึงพระโอรสและพระธิดาทุกพระองค์ของเจ้าชายวิลเลียม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รีทรงเป็นลูกคนที่สองของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ คุณอาร์ชีจึงไม่มีคุณสมบัติตามข้อ 3 แต่บัดนี้ เมื่อพระบิดาของเจ้าชายแฮร์รีเสด็จขึ้นเป็นคิงแล้ว คุณอาร์ชีและคุณลิลิเบตจึงมีคุณสมบัติที่จะได้รับฐานันดรเจ้าชาย-เจ้าหญิง ตามกฎข้อ 2 นั่นเอง
นอกจากนั้น เดลิเมลออนไลน์ขยายความเพิ่มให้อีกว่า ทั้งสองทรงมีสิทธิใช้พระอิสริยยศว่า His Royal Highness / Her Royal Highness ได้ด้วย โดยขึ้นอยู่กับว่าเจ้าตัวจะทรงเลือกที่จะใช้หรือไม่
เจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนแสดงท่าทีที่จะให้ คุณอาร์ชี เติบโตขึ้นมาโดยไม่ใช่เจ้าชายอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลการตั้งพระนามให้แก่คุณอาร์ชีในช่วงสองวันแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมา มีอยู่ว่า สำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมประกาศว่าเจ้าชายแฮร์รีและพระชายาทรงตัดสินใจให้พระโอรสพระองค์โตใช้พระนามว่าอาร์ชี แฮร์ริสัน เมาท์แบทเทน-วินด์เซอร์
คำประกาศดังกล่าวมีออกมาหลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถ และดยุกแห่งเอดินบะระผู้เป็นพระสวามี ทรงได้พบกับพระราชปนัดดาลำดับที่ 8 เป็นครั้งแรก ณ ปราสาทวินด์เซอร์ บีบีซีรายงานไว้เมื่อ 8 พฤษภาคม 2019 พร้อมให้ข้อมูลด้วยว่า
ในการตัดสินใจดังกล่าว ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ได้เลือกที่จะไม่ให้พระโอรสใช้ฐานันดรศักดิ์
นอกจากนั้น จอนนี ไดมอนด์ ผู้สื่อข่าวคนดังของบีบีซีซึ่งคร่ำหวอดในสายข่าวราชวงศ์วิเคราะห์ว่า นั่นเป็น “เครื่องชี้บ่งที่ชัดเจนมากว่าทั้งสองไม่ประสงค์จะเลี้ยงดูให้คุณอาร์ชีโตขึ้นมาเป็นราชนิกุลเต็มรูปแบบ”
อันที่จริง ในฐานะที่คุณอาร์ชีเป็นพระโอรสของดยุก คุณอาร์ชีมีสิทธิที่จะใช้ฐานันดรศักดิ์ว่า เอิร์ลแห่งดัมบาร์ตัน อันเป็นหนึ่งในฐานันดรศักดิ์ต่างๆ ของเจ้าชายแฮร์รี อีกทั้งยังมีสิทธิใช้ว่า ลอร์ดอาร์ชี เมาท์แบทเทน-วินด์เซอร์ ก็ได้ แต่แหล่งข่าวในแวดวงพระราชนิกุลกล่าวกับเดลิเมลออนไลน์ว่า เจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนทรงเลือกไม่ให้ใช้ฐานันดรศักดิ์ “ในเวลานี้”
ดยุกและดัชเชสมีท่าทีเปลี่ยนไป โดยบอกว่าเรื่องยศของอาร์ชี พวกตนไม่มีอำนาจตัดสินใจได้หรอก
ประกาศที่ออกมาจากสำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมในวันที่ 9 พฤษภาคม 2019 ว่าเจ้าชายแฮร์รีและพระชายาทรงตัดสินใจเลือกให้พระโอรสพระองค์โตใช้พระนามว่าอาร์ชี แฮร์ริสัน เมาท์แบทเทน-วินด์เซอร์ นั้น เป็นไปตามพิธีการปกติ ไม่มีดรามาใดๆ และผู้ที่ได้รับทราบก็ไม่ประหลาดใจ ในเมื่อเจ้าชายแฮร์รีบ่นมาตลอดว่าการเป็นเจ้าชายเต็มไปด้วยภาระ สร้างความลำบากให้แก่ชีวิต
เจ้าชายแฮร์รีเคยตรัสว่าในสมัยที่รับราชการในกองทัพบก ซึ่งพระองค์เป็นเพียงแฮร์รีนั้น “เป็นการหลบออกมาที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยมีโอกาสทำได้” และทรงเล่าไว้ในปี 2017 ว่าทรงเคยคิดจะลาออกจากฐานันดร เดลิเมลออนไลน์รายงาน
แต่ทว่า เมื่อดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ให้สัมภาษณ์แก่โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรรายการทอล์กโชว์ยอดนิยมของโลก ซึ่งมีการออกอากาศสู่ประเทศต่างๆ ในวันที่ 8 มีนาคม 2021 ดัชเชสเมแกนบอกว่าเจ้าชายแฮร์รีและตัวเธอไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจเรื่องฐานันดรของคุณอาร์ชี โดยกล่าวว่า “เราไม่มีอำนาจตัดสินใจได้หรอก จริงไหมคะ”
ในรายการเดียวกันนั้น ดัชเชสพรรณนาถึงความปวดร้าวใจเมื่อพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธเรื่องฐานันดรเจ้าชายสำหรับคุณอาร์ชี ทั้งที่น่าจะทราบดีถึงพระราชวินิจฉัยปี 1917 ซึ่งทำให้เหลนของพระเจ้าแผ่นดินในสายของเจ้าชายวิลเลียมเท่านั้นที่จะได้ฐานันดรศักดิ์เจ้าชาย
ทั้งนี้ ดัชเชสเมแกนอาจจะมั่นใจว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงพระราชวินิจฉัยปี 1917 เธอจึงพูดกับโอปรา วินฟรีย์ กล่าวหาพระราชวงศ์อังกฤษว่าไม่ให้ศักดิ์เจ้าชายแก่คุณอาร์ชีเพราะมองว่าคุณอาร์ชีมีเชื้อสายทางแอฟริกัน (จากคุณแม่) เข้าไปเจืออยู่ในสายเลือด
พร้อมกันนั้น ดัชเชสฟ้องโอปราห์ว่าฝ่ายพระราชวังบักกิ้งแฮมไม่จัดทีมรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ มาดูแลปกป้องอาร์ชี
ในการนี้ นิตยสารคอสโมโพลิแทนส์ถอดคำกล่าวของดัชเชสเมแกนว่า “พวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการให้อาร์ชีเป็นเจ้าชาย และบอกด้วยว่าอาร์ชีจะไม่ได้รับสิทธิด้านการให้ความอารักขา เรื่องนี้เกิดขึ้นมาในช่วงสองสามเดือนท้ายๆ ที่ดิฉันตั้งครรภ์ แล้วดิฉันพูดไปว่า ‘เดี๋ยวก่อนนะคะ’ พวกเขาบอกว่า (อาร์ชีจะไม่ได้รับการอารักขา) เพราะเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าชาย โอเคก็ได้ เอาเถอะ แต่เขาจำเป็นต้องได้รับการอารักขา ดังนั้นดิฉันกับแฮร์รีไม่ได้บอกว่าอย่าตั้งให้อาร์ชีเป็นเจ้าชาย แต่ถ้าคุณบอกว่าตำแหน่งเจ้าชายเป็นอะไรที่จะกระทบไปถึงเรื่องการอารักขา เราก็จะบอกว่าเราไม่ได้เป็นผู้ที่สร้างพวกจักรกลโหดร้ายพวกนั้นที่มารุมล้อมพวกเรา คุณปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ซึ่งก็หมายความว่าลูกชายของเราต้องได้รับการคุ้มครองให้ปลอดภัย”
เมื่อโอปราห์ถามว่าเธอเห็นเป็นเรื่องสำคัญหรือที่อาร์ชีจะต้องมีฐานันดรศักดิ์แห่งเจ้าชาย ดัชเชสตอบว่าเธอไม่ติดกับความหรูหราของตำแหน่ง แต่ประเด็นของเรื่องคือ “ความคิดที่ว่าลูกของดิฉันไม่ได้รับความปลอดภัย กับความคิดที่ว่าอาร์ชีเป็นสมาชิกราชตระกูลรายแรกที่เป็นเด็กผิวสี จึงทำให้เขาไม่ได้รับตำแหน่งแบบเดียวกับที่หลานคนอื่นๆ ได้รับ”
เมื่อการออกอากาศเทปสัมภาษณ์ดยุกและดัชเชสจบแล้ว ในเวลาต่อมาก็มีผู้บรรดาเชี่ยวชาญการราชวงศ์อังกฤษออกมาอธิบายสาเหตุแท้จริงที่ทำให้ไม่มีการมอบตำแหน่งเจ้าชายให้แก่คุณอาร์ชี ผู้เป็นเหลนของควีนเอลิซาเบธที่ 2 แต่อยู่ในสายของเจ้าชายแฮร์รีซึ่งมิได้เป็นหลานคนโตของควีน แนวคิดของผู้คนออกมาในทางผิดหวังว่าท่าทีของครอบครัวเจ้าชายแฮร์รีเปลี่ยนไปจากที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ฐานันดรศักดิ์ไว้มากมาย
ครอบครัวซัสเซกซ์ถูกบอกว่าคุณอาร์ชีไม่มีวันจะได้เป็นเจ้าชาย แม้พระบิดาชาร์ลส์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ก็เถอะ
ในปี 2021 มีการพูดกันอย่างกว้างขวางว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (พระฐานันดรศักดิ์ในขณะนั้น) มีพระประสงค์จะทำให้สถาบันกษัตริย์ผอมเพรียวลงมา ให้อุ้ยอ้ายน้อยลง โดยจะลดจำนวนสมาชิกพระราชวงศ์ที่จะได้รับฐานันดรศักดิ์ และดังนั้นจึงทรงตั้งพระทัยว่าเมื่อพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์จะดำเนินการในเรื่องนี้
ซึ่งถ้านี่มิใช่แค่ข่าวลือ และสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงขับเคลื่อนนโยบายนี้กันจริงๆ ด้วยการแก้ไขพระราชวินิจฉัยปี 1917 คุณอาร์ชีซึ่งเป็นเจ้าชายในทางเทคนิค ก็จะไม่ได้เป็นเจ้าชายเต็มตัว
แต่ถ้าไม่มีการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้น คุณอาร์ชี และคุณลิลิเบตก็จะเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงต่อไปเรื่อยๆ
กระนั้นก็ตาม ในเมื่อดัชเชสเมแกนประกาศว่าสิ่งหลักที่เธอและเจ้าชายแฮร์รีต้องการ คือ คุณอาร์ชีได้รับการอารักขา เดลิเมลออนไลน์ก็ชี้ว่าการเป็นเจ้าชายอาร์ชีและเจ้าหญิงลิลิเบตในทางเทคนิค มิได้หมายความว่า ทีมบอดี้การ์ดจะถูกส่งไปให้โดยอัตโนมัติ และที่สำคัญคือ ขณะนี้เจ้าชายและเจ้าหญิงพระองค์น้อยแห่งซัสเซกซ์ใช้ชีวิตอยู่ไกลถึงสหรัฐอเมริกา
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ยังมิได้ประกาศเปลี่ยนแปลงพระราชวินิจฉัยปี 1917 เพราะยังมีภารกิจเร่งด่วนมากมาย
แต่ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ ดัชเชสแคเธอริน มิดเดิลตัน สะใภ้หลวงคู่เทียบของดัชเชสเมแกน ได้รับฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้าหญิงอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงประกาศการแต่งตั้งเจ้าฟ้าชายวิลเลียมเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2022
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : บีบีซี เดลิเมลออนไลน์ คอสโมโพลิแทนต์ เอพี รอยเตอร์)