xs
xsm
sm
md
lg

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ย้ำพระราชปณิธานตามรอย ‘ควีน’ รับใช้ประชาชน ตั้ง ‘วิลเลียม’ เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชดำรัสแรกต่อพสกนิกรชาวอังกฤษ หลังเสด็จฯ ขึ้นครองราชย์เป็นประมุขพระองค์ใหม่เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) โดยทรงย้ำพระราชปณิธานเดินตามรอยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชมารดา ในการ “ทรงงานตลอดชีวิต” พร้อมทรงประกาศแต่งตั้งเจ้าชายวิลเลียม พระราชโอรสองค์ใหญ่ ขึ้นเป็น “เจ้าชายแห่งเวลส์” (Prince of Wales)

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ได้เสด็จฯ กลับไปยังพระราชวังบักกิงแฮมในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ (9) โดยมีประชาชนจำนวนมากเฝ้ารอรับเสด็จฯ พร้อมกับปรบมือและเปล่งเสียงถวายพระพรดังกึกก้อง “God Save The King”

สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ เสด็จฯ สวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. ณ ปราสาทบัลมอรัลในสกอตแลนด์ ขณะมีพระชนมายุได้ 96 พรรษา ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของพสกนิกรชาวอังกฤษและผู้คนทั่วโลก

ในพระราชราชดำรัสซึ่งถ่ายทอดผ่านสื่อโทรทัศน์แห่งชาติอังกฤษเมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในวัย 73 พรรษา ทรงเริ่มด้วยการตรัสยกย่องการทรงงานของพระราชมารดาตลอดระยะเวลา 70 ปีรัชสมัย และทรงขอบพระทัย “แม่ที่รัก” สำหรับความรักและการอุทิศพระองค์เพื่อราชวงศ์และประเทศชาติมาโดยตลอด

“ข้าพเจ้ากล่าวกับท่านทั้งหลายในวันนี้ด้วยความรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง ตลอดชีวิตของพระองค์ สมเด็จพระราชินีนาถ – มารดาที่รักของข้าพเจ้า – ทรงเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างให้ข้าพเจ้าและสมาชิกในครอบครัวทุกคน และเราทุกคนต่างก็ติดค้างพระองค์เช่นเดียวกับที่ครอบครัวอื่นๆ ติดค้างมารดาของพวกเขา ที่ได้มอบความรัก ความเมตตา การชี้นำ ความเข้าใจ และการเป็นแบบอย่าง

“ในปี 1947 ในวันคล้ายวันพระราชสมภพปีที่ 21 พระองค์ได้ทรงให้คำมั่นผ่านการถ่ายทอดสดจากเมืองเคปทาวน์ไปยังเครือจักรภพว่าจะทรงอุทิศชีวิต ไม่ว่าจะสั้นหรือยาวนานเพียงใด เพื่อรับใช้ประชาชนของพระองค์

“สิ่งนั้นเป็นมากกว่าคำสัญญา หากแต่เป็นการตั้งปณิธานต่อตนเองอย่างแน่วแน่ ซึ่งได้กลายเป็นคำนิยามทั้งชีวิตของพระองค์

“ความทุ่มเทและอุทิศพระวรกายในฐานะประมุขของชาติไม่เคยสั่นคลอน ไม่ว่าจะผ่านช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้า ช่วงเวลาแห่งความสุขและการเฉลิมฉลอง และช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าและการสูญเสีย

“ไม่ว่าท่านจะอาศัยอยู่ที่ใดในสหราชอาณาจักร หรือประเทศและดินแดนทั่วโลก และไม่ว่าท่านจะมีพื้นเพหรือความเชื่อแบบใดก็ตาม ข้าพเจ้าจะขอมุ่งมั่นทำงานรับใช้ท่านด้วยความซื่อสัตย์ ความเคารพ และความรัก ดังที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาตลอดทั้งชีวิต”



พระองค์ได้ตรัสกับนายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ ก่อนหน้านี้ว่า การสวรรคตของพระราชมารดา ซึ่งทำให้พระองค์กลายเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรและอีก 14 ชาติในเครือจักรภพ รวมถึงออสเตรเลีย แคนาดา จาเมกา นิวซีแลนด์ และปาปัวนิวกินี “เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวมาโดยตลอด”

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ยังทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับ คามิลลา ซึ่งเวลานี้ทรงเป็นสมเด็จพระราชินี (Queen Consort) โดยทรงยกย่องพระราชชายาที่ได้ปฏิบัติภารกิจรับใช้ประชาชนด้วยความสัตย์ซื่อตลอด 17 ปีภายหลังการอภิเษกสมรส และทรงเชื่อมั่นว่าพระนาง “จะปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทใหม่ด้วยความทุ่มเทอุทิศตน ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องพึ่งพาอย่างมาก”

พระองค์ยังได้ประกาศสถาปนาเจ้าชายวิลเลียมขึ้นเป็น “เจ้าชายแห่งเวลส์” และ “ดยุคแห่งคอร์นวอลล์” ซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์โดยธรรมเนียมสำหรับองค์รัชทายาทลำดับที่ 1 และทรงมอบหมายให้พระราชโอรสองค์ใหญ่สืบทอดความรับผิดชอบต่อ “ดัชชีแห่งคอร์นวอลล์” (Duchy of Cornwall) ซึ่งเป็นอาณาจักรพระราชทรัพย์ที่ทรงครอบครองมาหลายสิบปี ขณะที่ดัชเชสแคทเธอรีน พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ได้ขึ้นเป็น “เจ้าหญิงแห่งเวลส์” อันเป็นตำแหน่งเดิมของ “เจ้าหญิงไดอาน่า”

“โดยการมีแคทเธอรีนอยู่เคียงข้าง ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์พระองค์ใหม่จะเป็นแรงบันดาลใจและจุดประกายการหารือระดับชาติ เพื่อนำปัญหาชายขอบที่ไม่มีใครสนใจให้ขึ้นมาอยู่ตรงกลาง เพื่อมอบความช่วยเหลือที่สำคัญให้”

พระองค์ยังตรัสแสดง “ความรัก” ต่อเจ้าชายแฮร์รี พระราชโอรสพระองค์เล็ก และ “เมแกน มาร์เคิล” พระสุณิสา ซึ่งได้สละบทบาทความเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนนำมาซึ่งความบาดหมางร้าวลึกภายในครอบครัวของพระองค์ และจุดชนวนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่สำหรับสถาบันกษัตริย์อังกฤษ

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงสรุปในตอนท้ายด้วยการตรัสถึงพระราชมารดาว่า “ถึงมารดาที่รักของข้าพเจ้า ในขณะที่ท่านเริ่มต้นการเดินทางอันยิ่งใหญ่เพื่อไปพบกับพ่อที่รักของข้าพเจ้าซึ่งได้จากไปก่อนแล้ว ข้าพเจ้าขอพูดแค่เพียงว่า ขอบคุณ... ขอบคุณสำหรับความรักและความทุ่มเทที่ท่านมีต่อครอบครัวของเรา และครอบครัวของชาติที่ท่านได้อุทิศตนรับใช้ด้วยความอุตสาหะตลอดหลายปีมานี้ ขอให้บรรดาทูตสวรรค์ช่วยขับกล่อมเสียงเพลงเพื่อให้ท่านได้หลับพักผ่อน”

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงรับการกราบบังคมทูลเชิญขึ้นเป็นกษัตริย์อย่างเป็นทางการ ภายหลังการประชุมของสภาการขึ้นครองราชย์ (Accession Council) ซึ่งจะจัดขึ้นที่พระราชวังเซนต์เจมส์ในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ (10 ก.ย.) โดยมีสมเด็จพระราชินีคามิลลา และเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์พระองค์ใหม่ เข้าร่วมในพิธี และจะมีการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาอีกครั้งระหว่างที่การเสด็จฯ ขึ้นครองราชย์ถูกประกาศอย่างเป็นทางการทั่วทุกดินแดนในสหราชอาณาจักรจนถึงวันอาทิตย์ (11) ก่อนจะลดระดับลงครึ่งเสาอีกครั้ง เพื่อไว้อาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ

ที่มา : รอยเตอร์, BBC










กำลังโหลดความคิดเห็น