เจ้าชายหลุยส์ แห่งพระราชวงศ์อังกฤษ ราชนิกุลหนุ่มน้อยผู้มาดมั่น ณ วัย 4 พรรษา ไม่ยอมให้พระบิดาจูงพระหัตถ์ ขณะครอบครัวเคมบริดจ์ทรงมุ่งหน้าสู่อาคารโรงเรียนแลมบรูก สถานศึกษาแห่งใหม่ของเจ้าชายหลุยส์ ตลอดจนพระเชษฐาจอร์จ และพระเชษฐภคินีชาร์ลอตต์ เมื่อวันพุธที่ 7 กันยายน 2022 เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น พร้อมอธิบายว่า ปรินซ์หลุยส์ เจ้าชายวัยอนุบาลทรงไม่อยากถูกเห็นเป็นหนูน้อยที่ต้องมีพระบิดาและพระมารดาจับมือประกบขวาซ้ายในวันแรกที่โรงเรียนใหม่
ดยุก และดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงนำ “แก๊งหนูน้อยเคมบริดจ์” ไปส่งโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานศึกษาแห่งใหม่เพราะมีการย้ายพระตำหนักจากวังเคนซิงตัน กรุงลอนดอน สู่พระตำหนักอเดลเลด คอตเทจ ในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ในราชมณฑลบาร์กเชอร์ ซึ่งเป็นเคาน์ตี้ที่ติดกับลอนดอนฝั่งตะวันตก
แคเธอริน มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงแจ่มใสเปล่งปลั่งด้วยรอยยิ้ม พระหัตถ์ขวากุมมือเจ้าชายจอร์จ วัย 9 พรรษา และพระหัตถ์ซ้ายกุมมือเจ้าชายหลุยส์ โดยพระโอรสทั้งสองทรงอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนเหมือนกัน
ด้านเจ้าชายวิลเลียม ทรงปรากฏในวิดีโอของสำนักงานพระราชวัง ว่าพระหัตถ์ซ้ายของพระองค์จับกระชับกับพระหัตถ์เล็กๆ ของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ วัย 7 พรรษา พร้อมกับทรงเรียกให้เจ้าชายพระองค์สุดท้องจับพระหัตถ์ขวา แต่ปรินซ์หลุยซ์ ซึ่งพ้นวัยเตรียมอนุบาลและอยู่ในวัย อ.1 จึงสามารถเข้าโรงเรียนแลมบรูกได้นั้น ทรงมีพระอาการแน่วแน่ว่าจะไม่ทรงสนพระทัยพระบิดา แต่ทรงแนบพระกรอวบกลมไว้กับพระกายและเบียดชิดไปทางพระมารดา โดยอาจจะทรงคิดว่าทรงโตเกินกว่าจะเดินจูงพระหัตถ์กับพระบิดาข้างหนึ่งและพระมารดาข้างหนึ่ง เดลิเมลออนไลน์รายงาน
เมื่อเห็นพระโอรสประสงค์เช่นนั้น เจ้าชายวิลเลียมผู้เป็นพระบิดาแสนดีพระทัยกว้างใหญ่กว่าจักรวาล ทรงยอมอนุโลมตาม และทรงแตะพระเศียรทุยป้อมของพระโอรสอย่างปรานี ซึ่งปรินซ์หลุยส์ หนุ่มน้อยชาวเมษผู้สุดๆ จะเป็นตัวของตัวเอง ทรงเบี่ยงหลบออกมาโดยมิได้ออกพระอาการงอแงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อทั้ง 5 พระองค์ดำเนินเข้าใกล้อาคารโรงเรียน ปรินส์หลุยส์ผู้มาดมั่นเกินวัย 4 พรรษา ทรงยิ้มร่าเริงให้แก่กล้องถ่ายรูปทั้งปวง
พระกิจกรรมของเจ้านายพระองค์น้อยทั้งสามแห่งราชตระกูลอังกฤษสายเคมบริดจ์ในวันแรกที่โรงเรียนใหม่ คือ การทำความรู้จักกับโรงเรียน ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีของโรงเรียนในการต้อนรับนักเรียนใหม่และผู้ปกครอง ก่อนที่การเปิดเรียนจริงจะมีขึ้นในวันต่อมา คือ วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน
กิจกรรมทำความรู้จักกับโรงเรียนมีขึ้นช่วงบ่าย โดยเจ้าชายวิลเลียม ทรงขับพระราชยานยนต์หลวงด้วยพระองค์เอง ทรงนำพระชายาและพระโอรสพระธิดามากันแบบไม่มีพิธีรีตอง
“เมื่อเจ้าชายและเจ้าหญิงพระองค์น้อยก้าวออกจากพระราชยานยนต์ ทรงมีความไม่มั่นใจด้วยความตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ทรงประหม่านะคะ ทรงแลดูอ่อนหวานสบายๆ เป็นเด็กที่เก่งอย่างยิ่งค่ะ” แหล่งข่าวใกล้ชิดดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เล่ากับเดลีเมลอย่างนั้น
ปรินซ์วิลเลียมทรงปล่อยพระมุก เรียกทีมพระโอรสพระธิดาว่า “เดอะแก๊ง”
ที่หน้าอาคารโรงเรียนทรงโบราณอันงดงามจากศตวรรษที่ 19 อาจารย์โจนาธาน เพอร์รี อาจารย์ใหญ่แห่งแลมบรูก ยืนรอต้อนรับครอบครัวเคมบริดจ์ หลังจับมือทักทายแล้วพระอาจารย์ถามศิษย์ใหม่ทั้งสามพระองค์ว่าตื่นเต้นกับโรงเรียนใหม่หรือไม่ ราชนิกุลพระองค์น้อยทรงตอบรับอย่างพร้อมเพรียงว่า ครับ/ค่ะ
และเมื่อขึ้นบันไดไปพบกับภรรยาของอาจารย์ใหญ่ ผู้เป็นเจ้าหน้าที่บริหารของโรงเรียน ซึ่งกล่าวทักทายเสียงสดใส ยินดีต้อนรับกลับมาเพคะ (หลังจากที่เจ้าชายวิลเลียมเคยไปโรงเรียนและหารือกับผู้บริหารโรงเรียน) เจ้าชายวิลเลียมตรัสตอบพร้อมหยอดมุกว่า ครับ กลับมา “พร้อมกับเดอะแก๊ง” สื่อค่ายอีฟนิ่ง สแตนดาร์ดรายงาน
ดยุก และดัชเชสทรงตัดสินพระทัยย้ายออกจากพระตำหนักที่วังเคนซิงตัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันในฉายาว่า อ่างปลาทอง เพราะสวนสวยของวังเคนซิงตันเป็นส่วนต่อเนื่องกับสวนสาธารณะ ทำให้ประชาชนสามารถมองเข้าไปเห็นความเคลื่อนไหวด้านหลังรั้ววังได้ เวลาที่ดยุกบ้าง ดัชเชสบ้างทรงพาลูกๆ ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในสวนสวยของวัง ดังนั้น จึงมีการนำไปเปรียบเทียบเสมือนการมองเข้าไปดูความเคลื่อนไหวภายในอ่างปลาทองนั่นเอง
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์วิเคราะห์กันอย่างกว้างขวางว่า การตัดสินพระทัยของทั้งสองพระองค์เป็นความพยายามที่จะให้พระโอรสพระธิดา มีเสรีภาพมากขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนสำหรับโรงเรียนแลมบรูกนั้น ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าพระบิดาและพระมารดาแสนดีทั้งสองพระองค์ปลื้มแลมบรูกมานานแล้ว เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีพื้นที่เขียวชอุ่มกว้างขวางกว่า 132 ไร่ ซึ่งมหาศาลกว่าโรงเรียนโทมัส แบตเตอร์ซี สถานศึกษาเดิมของเจ้าชายจอร์จ และเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ในเขตชานกรุงลอนดอนฝั่งใต้
ในโรงเรียนแห่งใหม่นี้ นักเรียนจะได้ใช้ชีวิตเปี่ยมสุขภาพ พร้อมกับมีประสบการณ์ชีวิตชนบท ซึ่งมีทั้งกุ๊กไก่ รวงผึ้ง และกระทั่งน้องหมู
พร้อมกันนั้น ภายในโรงเรียนยังมีสวนผลไม้ของตนเอง มีสนามกอล์ฟขนาด 9 หลุม มีสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร มีสนามเล่นคริกเก็ตและโปโล
การได้เรียนและเล่นกลางแจ้งเป็นอะไรที่ดัชเชสเคทให้ความสำคัญอย่างที่สุด และมักที่จะตรัสว่าเป็นประโยชน์แก่ร่างกายและจิตใจของเด็กๆ หากได้ใช้เวลากลางแจ้งมากที่สุดที่จะเป็นได้ สื่อค่ายไอทีวีรายงาน
ไม่เป็นดังที่ “เมแกน” ปรามาสประเทศอังกฤษ ว่าปาปารัสซีจะแห่กันไปรบกวนพระโอรสที่โรงเรียน
การทำความรู้จักโรงเรียนที่แลมบรูกใช้เวลาเพียง 90 นาที โดยในส่วนของผู้ปกครองจะเข้าห้องโถงใหญ่สำหรับกิจกรรมโรงเรียน และทำความรู้จักกัน ขณะที่เด็กๆ แยกย้ายเข้าห้องเรียนฟังปฐมนิเทศจากคุณครูประจำชั้นและทำความรู้จักกันและกัน
บรรยากาศภายในโรงเรียนเป็นไปด้วยความราบรื่นด้วยการจัดระบบตามมาตรฐานปกติ
โดยมีการขอร้องให้สื่อมวลชนไม่เข้าไปถ่ายภาพทำข่าวที่โรงเรียน และให้เด็กๆ เรียนหนังสือกันอย่างราบรื่น ไอทีวีรายงาน
นอกจากนั้น บรรณาธิการขององค์กรข่าวทั้งปวงถูกขอไม่ให้ซื้อหรือตีพิมพ์ภาพของราชนิกุลแห่งเคมบริดจ์ทั้งสามพระองค์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักพระราชวัง
มาตรฐานการนำเสนอข่าวดังกล่าวนี้ถูกยึดถือปฏิบัติเรื่อยมาตั้งแต่ที่เจ้าชายจอร์จทรงเข้าโรงเรียนในปี 2017
สำหรับในกิจกรรมนี้ของแลมบรูก สื่อมวลชนมีตัวแทน 3 รายเข้าไปทำข่าวในโรงเรียนซึ่งจะนำไปเผยแพร่แก่ค่ายข่าวต่างๆ โดยทั่วถึง ได้แก่ ช่างภาพ 1 ราย จากสำนักข่าวแห่งชาติ กล้องวิดีโอข่าว 1 ราย จากบีบีซี และผู้สื่อข่าว 1 ราย จาก Royal Rota ซึ่งเป็นพูลข่าวพระราชวงศ์ของสำนักข่าวทั้งปวง โดยมีเจ้าหน้าที่ประสานงานนักข่าว 1 ราย จากสำนักงานพระราชวังเคนซิงตัน
สำหรับผู้ปกครองที่เข้าร่วมกิจกรรมจะให้ความร่วมที่จะไม่บันทึกคลิปวิดีโอบนโทรศัพท์มือถือ
ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่ให้การอารักขา จำนวน 5-6 ราย คอยเดินดูแลแบบเนียนๆ ไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตหรือสร้างความอึดอัดแก่ผู้ปกครองและนักเรียนทั้งหลาย
ในบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟที่ เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ผู้เป็นน้องสะใภ้ของเจ้าชายวิลเลียม ให้แก่นิตยสารเดอะคัท ในสหรัฐอเมริกาและมีการนำขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์ของเดอะคัทเมื่อวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2022 ดัชเชสเมแกน กล่าวว่าถ้าเธอยังอยู่ในประเทศอังกฤษ เธอจะไม่สามารถขับรถรับส่งลูกไปโรงเรียนได้โดยปราศจากการถูกช่างภาพปาปารัสซีไล่ตามถ่ายภาพ
คุณภาพชีวิตแชปเตอร์ใหม่ คือ ดีขึ้นมาก ประหยัดงบได้เยอะด้วย
การตัดสินพระทัยย้ายพระตำหนักครั้งนี้จะเป็นการดีต่อครอบครัวเคมบริดจ์ โจ ลิตเติล กรรมการผู้จัดการของแมเจสตี แมกกาซีน กล่าวอย่างนั้น
กล่าวคือ การประหยัดเวลาขับรถรับ-ส่งพระโอรสและพระธิดา เพราะไม่มีปัญหาการจราจรหนาแน่น และระยะทางก็ลดน้อยลงมาก ดังนั้นการขับรถรับ-ส่งจากพระราชฐานวินด์เซอร์ถึงโรงเรียนแลมบรูกจึงใช้เวลาเพียงสั้นๆ แค่ 20 นาที
นอกจากนั้น ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการให้อารักขา เพราะเดิมจะต้องวางกำลังไว้ที่โรงเรียนโทมัส แบตเตอร์ซี และยังจะต้องมีทีมอารักขาอีกหนึ่งชุดสำหรับเจ้าชายหลุยส์ ที่โรงเรียนอนุบาลวิลคอกส์ เนอสเซอรี สกูล แต่ตอนนี้สามารถใช้ทีมอารักขาเพียงชุดเดียวเท่านั้น
โรงเรียนแลมบรูกซึ่งมีนักเรียนประมาณ 600 คน เป็นโรงเรียนเอกชนคุณภาพสูงสมกับค่าเรียนซึ่งมหาศาลพอใช้ได้ โดยตั้งขึ้นมาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันมีทั้งนักเรียนประจำกับนักเรียนไปเช้าเย็นกลับ
ค่าเล่าเรียนสำหรับครอบครัวที่มีบุตร 3 คน อยู่ที่กว่า 53,000 ปอนด์ต่อปี หรือมากกว่า 2.22 ล้านบาท กระนั้นก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ซึ่งมีฐานะการเงินดีต่างออกปากชมว่าการศึกษาซึ่งโรงเรียนแลมบรูกจัดให้แก่บุตรหลานนั้นยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นค่าใช้จ่ายดังกล่าวมีความคุ้มค่าอย่างยิ่ง
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : เดลิเมลออนไลน์ อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด ไอทีวี เอพี รอยเตอร์)