เอเจนซีส์ - ลิซ ทรัสส์ เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอเลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ ที่ปราสาทแบลมอรัลในสกอตแลนด์ วันอังคาร (6 ก.ย.) และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างเป็นทางการต่อจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ที่แสดงสุนทรพจน์ 3 ทหารเสือ BREXIT ประกาศชัยนำอังกฤษออกมาจากสหภาพยุโรปสำเร็จ จัดการแจกวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนอังกฤษท่ามกลางวิกฤตและที่สำคัญเรียกเสียงเป่าปากไปทั่ว ประกาศไม่ยอมให้ปูตินใช้พลังงานเป็นอาวุธเพื่อแบล็กเมล์ หรือบุลลีคนอังกฤษเด็ดขาด
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (6 ก.ย.) ว่า ลิซ ทรัสส์ เดินทางด้วยเครื่องบินระยะทางร่วม 1,100 ไมล์ทั้งไปและกลับเดินทางไปยังปราสาทแบลมอรัล (Balmoral Castle) ในอะเบอร์ดีนเชอร์ (Aberdeenshire) สกอตแลนด์ในวันอังคาร (6) และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนที่ 15 อย่างเป็นทางการต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน
ภาพข่าวรายงานการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษของทรัสส์ เกิดขึ้นหลังจอห์นสันได้เข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระราชินีนาถเช้าวันนี้ (6) เพื่อถวายหนังสือลาออกจากตำแหน่ง
ซึ่งสำนักพระราชวังบักกิงแฮมกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า สมเด็จพระราชินีนาถแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ทรัสส์จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
และเป็นครั้งแรกที่มีการปรากฏภาพของควีนเอลิซาเบธต่อสาธารณะ หลังจากที่พระองค์ทรงมีปัญหาด้านพระพลานามัยในการเคลื่อนไหวและเป็นเหตุผลที่ทรัสส์และจอห์นสันต้องเดินทางมาเพื่อเข้าเฝ้าพระองค์ที่สกอตแลนด์แทนที่จะเกิดขึ้นที่กรุงลอนดอนตามปกติ สื่อรายงานว่าพระองค์ทรงธารพระกรระหว่างทรัสส์เข้าเฝ้า
สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์ก่อนหน้ามีใจความว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษทรงรับหนังสือลาออกจากตำแหน่งของจอห์นสันไว้
บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษที่มีพระชนมายุสูงถึง 96 พรรษา ทรงมีปัญหาด้านพระพลานามัย แต่ตั้งพระทัยต้องการทำหน้าตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอังกฤษที่กำหนดไว้
ด้านนักประวัติศาสตร์และผู้เขียนชีวประวัติราชวงศ์อังกฤษชื่อดัง โรเบิร์ต เลซีย์ (Robert Lacey) แสดงความเห็นเรื่องนี้กับบีบีซีว่า มีคนจำนวนมากแสดงความเห็นว่าเป็นสิ่งสมควรที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่สมควรที่จะเดินทางไปยังปราสาทแบลมอรัลเพื่อรับการแต่งตั้ง
“พิธีการที่พวกเราได้เห็นในวันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เตือนว่าอังกฤษมีผู้นำ 2 คนตลอดเวลาคือ ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และพระราชินีนาถ” เขากล่าว
ITV ของอังกฤษรายงานว่า ก่อนที่อดีตนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน จะเดินทางออกจากบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิงเพื่อเดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่สกอตแลนด์นั้นเขาได้กล่าวสุนทรพจน์อำลาเป็นครั้งสุดท้ายที่ฮือฮาด้วยการใช้วาทะแบบคาวบอยเริ่มต้นว่า "This is it, folks"
ทั้งประกาศความสำเร็จที่ตัวเองสามารถทำ BREXIT นำอังกฤษออกไปจากสหภาพยุโรปได้สำเร็จ จัดการแจกวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนอังกฤษ และแสดงการยืนหยัดในฐานะผู้นำอังกฤษ ไม่ยอมให้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินใช้พลังงานเป็นอาวุธแบล็กเมล์ หรือบุลลีคนอังกฤษเด็ดขาดท่ามกลางปัญหาวิกฤตเงินเฟ้อและราคาน้ำมันพุ่งภายในประเทศ
“ผมขอกล่าวต่อเพื่อนชาวพรรคคอนเซอร์เวทีฟทั้งหลาย มันถึงเวลาแล้วที่การเมืองต้องจบลง” และชี้โดยต้องการให้ทั้งพรรคให้การสนับสนุน ลิซ ทรัสส์ ในฐานะผู้นำพรรคและผู้นำอังกฤษคนใหม่ว่า “มันถึงเวลาแล้วที่พวกเราทั้งหมดทุกคนต้องอยู่เบื้องหลัง ลิซ ทรัสส์ และทีมของเธอและโครงการต่างๆ ของเธอ และมอบให้ทุกคนในประเทศแห่งนี้”
เขายังประกาศผ่านไปถึงผู้นำรัสเซียซึ่งจอห์นสันเดินทางไปเยือนกรุงเคียฟครั้งสุดท้ายเมื่อไม่นานมานี้ก่อนที่จะลงจากตำแหน่งว่า “และหากว่าปูตินคิดไปว่าเขาจะประสบความสำเร็จด้วยการแบล็กเมล์หรือบุลลีคนอังกฤษ ดังนั้นแล้วเขาคงต้องคิดไปเองขั้นร้ายแรงอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ จอห์นสันยังกล่าวถึงความสำเร็จและชัยชนะในฐานะนายกรัฐมนตรีอังกฤษระยะเวลาทั้งหมด 1,139 วันคือ การนำอังกฤษทำ BREXIT ลาออกจากสหภาพยุโรป การแจกวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนในประเทศได้ภายใน 6 เดือนเร็วกว่าชาติใดๆ ในโลก และการยืนหยัดเคียงข้างยูเครน
เดอะการ์เดียนรายงานว่า หลังจากที่ทรัสส์เข้าเฝ้าแล้วเธอจะเดินทางกลับมายังกรุงลอนดอน และขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างเป็นทางการในเวลาราว 16.00 น.
อ้างอิงจากบีบีซีพบว่า หนึ่งในงานแรกในช่วงเวลาไม่กี่วันในฐานะผู้นำคนใหม่ พบว่าทรัสส์ต้องจัดการเกี่ยวกับคำสั่งรหัสยิงอาวุธนิวเคลียร์ โดยเธอต้องส่งหนังสือสั่งการ 4 ฉบับที่เหมือนกันที่รู้จักในนาม "จดหมายทางเลือกสุดท้าย" (letters of last resort) ไปยังผู้บัญชาการเรือดำน้ำไทรเดนท์ติดอาวุธนิวเคลียร์ (Trident submarine) ของอังกฤษ 4 ลำเพื่อแสดงคำสั่งเกิดขึ้นหากในกรณีที่มีการตอบโต้หรืออังกฤษถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งหนังสือสั่งการนี้จะถูกเปิดออกก็ต่อเมื่อในยามที่การติดต่อกับลอนดอนล้มเหลว
สื่อ 9นิวส์ของออสเตรเลียรายงานในรายละเอียด จดหมายทางเลือกสุดท้ายที่ถือเป็นความลับสุดยอดของประเทศจะเป็นการแสดงแนวทางให้ผู้บัญชาการเรือดำน้ำไทรเดนท์รับรู้ว่าต้องปฏิบัติอย่างไรหากเกิดสถานการณ์อังกฤษโดนโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์และรัฐบาลลอนดอนถูกล้ม ซึ่งเรือดำน้ำแต่ละลำจะมีมิสไซล์ไทรเดนท์ติดหัวรบนิวเคลียร์ 16 ลูกประจำการ ซึ่งแต่ละลูกมีพิสัยทำการไกล 7,400 กิโลเมตร
ทั้งนี้พบว่า "จดหมายทางเลือกสุดท้าย" นี้จะถูกทำลายโดยที่ไม่มีการเปิดอ่านทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่โดยจดหมายจะถูกเก็บไว้ในที่ปลอดภัยแน่นหนาบนเรือดำน้ำ