ราคาก๊าซในยุโรปพุ่งทะยานเกือบ 30% ในวันจันทร์ (5 ก.ย.) หรือ 400% ทีเดียวเมื่อเทียบกับราคาในปีที่แล้ว หลังจากรัสเซียประกาศว่า หนึ่งในสายท่อส่งก๊าซหลักไปยังยุโรปจะปิดชนิดไม่มีกำหนด จุดชนวนความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับการขาดแคลนและจะต้องมีการปันส่วนก๊าซในประเทศอียูในฤดูหนาวที่ใกล้มาถึงนี้
รัฐบาลของพวกชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) กำลังเร่งออกมาตรการอุดหนุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อป้องกันพวกบริษัทพลังงานของตนไม่ให้ล้มครืนจากภาวะเงินสดตึงตัว รวมทั้งเพื่อปกป้องภาคครัวเรือนจากค่าพลังงานที่พุ่งพรวด หลังจากรัฐวิสาหกิจก๊าซปรอมของรัสเซียบอกว่า จะหยุดส่งก๊าซผ่านสายท่อส่ง “นอร์ดสตรีม 1” เนื่องจากพบปัญหาข้อบกพร่อง
ยุโรปกล่าวหารัสเซียว่า กำลังพยายามใช้ซัปพลายพลังงานมาเป็นอาวุธแก้แค้นมาตรการแซงก์ชันของตะวันตกจากกรณีมอสโกบุกยูเครน ทว่า รัสเซียโต้ว่า ตะวันตกเป็นฝ่ายเปิดสงครามเศรษฐกิจ และมาตรการแซงก์ชันของพวกเขาเองกำลังส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสายท่อส่งก๊าซ
ในวันจันทร์ เครมลินแถลงสำทับว่า การที่อียูซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่รอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม กำลังแสดงความเดือดดาลเกี่ยวกับราคาพลังงานที่พุ่งพรวดนั้น ปัญหานี้ที่จริงแล้วเป็นผลจากการตัดสินใจอย่างเต็มไปด้วย “อันตราย” ของพวกรัฐบาลอียูเอง
ปัจจุบัน บริษัทจ่ายพลังงานหลายแห่งในยุโรปประสบปัญหาทางการเงิน จนถึงกับต้องล้มละลาย และบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้ารายใหญ่บางแห่งก็อาจเผชิญความเสี่ยงนี้ด้วยเนื่องจากไม่สามารถขึ้นราคาได้ หรือไม่ก็เนื่องจากขาดทุนจากการเดิมพันความเสี่ยง เมื่อราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปเวลานี้พุ่งขึ้น 400% ถ้าเทียบกับราคของปีที่แล้ว
มิกา ลินติลา รัฐมนตรีกิจการเศรษฐกิจของฟินแลนด์ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (4) ว่า สถานการณ์ขณะนี้มีองค์ประกอบครบถ้วนที่จะเกิด “วิกฤตแบบเลห์แมน บราเธอร์ส” ขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ในปี 2008 ที่เลห์แมน บราเธอร์สซึ่งเป็นวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของอเมริกาล้มครืน สืบเนื่องจากตราสารหนี้ “ซับไพรม์” และนำไปสู่วิกฤตภาคการเงินทั่วโลก
ฟินแลนด์และสวีเดน ต่างแสดงท่าทีเตรียมเสนอค้ำประกันสภาพคล่องให้บริษัทพลังงาน 10,000 ล้านดอลลาร์ และ 23,000 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ เช่นเดียวกับเยอรมนีที่พึ่งพิงก๊าซจากรัสเซียมากกว่าสมาชิกอียูส่วนใหญ่ ที่เสนอเงินช่วยเหลือแก่ยูนิเปอร์ บริษัทสาธารณูปโภคในประเทศเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาก๊าซมาตรฐานในยุโรปพุ่งขึ้น 35% ในวันจันทร์ อยู่ที่ 284 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง หลังจากนอร์ดสตรีม 1 ประกาศเมื่อวันศุกร์ (2) ว่า การรั่วไหลในอุปกรณ์ของสายท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ทำให้บริษัทต้องปิดสายท่อส่งนี้ต่อแบบไม่มีกำหนด หลังจากปิดซ่อมบำรุงไป 3 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอร์ดสตรีม 1 ที่เป็นสายท่อส่งก๊าซจากรัสเซียลอดผ่านใต้ทะเลบอลติกไปยังเยอรมนี เคยเป็นผู้ป้อนก๊าซราว 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งออกของรัสเซียไปยุโรป แต่ได้ลดการจัดส่งเหลือแค่ 20% ของศักยภาพจริงอยู่แล้ว ก่อนปิดซ่อมบำรุงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนั้น ก๊าซรัสเซียที่ส่งให้แก่ยุโรปผ่านสายท่อส่งเส้นสำคัญอีกเส้นหนึ่งที่วางผ่านยูเครน ก็มีปริมาณการส่งลดลงไปแล้วเช่นเดียวกันระหว่างช่วงเกิดสงครามในยูเครน ทำให้อียูต้องเร่งหาแหล่งซัปพลายใหม่เตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาว
หลายชาติในอียูระบุว่าอาจต้องใช้แผนฉุกเฉิน ที่จะนำไปสู่การปันส่วนพลังงานและกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ทั้งอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้น เนื่องจากในฤดูหนาว ทางการต้องให้ความสำคัญลำดับต้นๆ แก่การทำความร้อนสู้อากาศหนาวของภาคครัวเรือน มากกว่าการใช้เพื่อการผลิตของภาคธุรกิจ
ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมบางแขนงในยุโรปที่ใช้พลังงานอย่างมาก เช่น ผู้ผลิตปุ๋ยและอะลูมิเนียม เวลานี้พากันชะลอการผลิตแล้ว ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีปัญหาการขาดแคลนชิปและโลจิสติกส์ชะงักงันอยู่ก่อนแล้ว ก็ต้องเผชิญปัญหาใหม่จากราคาพลังงาน
จาค็อบ แมนเดล เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัทวิจัย ออโรรา อิเนอร์จี้ รีเสิร์ช บอกว่า การที่ยุโรปจะหาก๊าซจากแหล่งอื่นๆ มาทดแทนก๊าซจากรัสเซียนับวันยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ เคลาส์ มุลเลอร์ ประธานเฟเดอรัล เน็ตเวิร์ก เอเจนซี ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านพลังงานของเยอรมนี เตือนตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วว่า กระทั่งถ้าเยอรมนีสามารถหาก๊าซมาเก็บสำรองเอาไว้ได้เต็ม 100% ของศักยภาพ แต่ก๊าซเหล่านั้นจะยังคงหมดไปภายใน 2 เดือนครึ่งอยู่ดี หากรัสเซียระงับการจ่ายก๊าซโดยสิ้นเชิง
ปัจจุบัน เยอรมนีจัดเก็บก๊าซได้ราว 85% ของศักยภาพการจัดเก็บ ขณะที่ชาติอื่นๆ ในยุโรปเพิ่งจัดเก็บได้ 80% ตามเป้าหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รอยเตอร์รายงานว่า รัฐมนตรีพลังงานอียูนัดพบกันในวันศุกร์ (9) เพื่อหารือถึงทางเลือกในการควบคุมราคาพลังงาน ซึ่งรวมถึงก๊าซ และสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับบริษัทพลังงาน
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)