องค์การอนามัยโลก (WHO) เฝ้าจับตาการระบาดของ “โรคปอดบวมปริศนา” ซึ่งพบผู้ป่วยแล้วอย่างน้อย 10 รายในอาร์เจนตินา เสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย โดยที่แพทย์ยังไม่รู้สาเหตุ
องค์การสุขภาพแห่งภาคพื้นอเมริกา (Pan American Health Organization : PAHO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในภูมิภาคของ WHO ระบุว่า ผู้ป่วยที่พบทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองซาน มิเกล เด ทูคูมาน (San Miguel de Tucumán) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอาร์เจนตินา
จากรายงานเบื้องต้นที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (30 ส.ค.) ผู้ที่ล้มป่วยประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 5 คน และคนไข้อีก 1 คนที่รักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยหนักของคลินิกแห่งนี้ โดยเริ่มแสดงอาการป่วยระหว่างวันที่ 18-22 ส.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา ในวันพฤหัสบดี (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นรายงานพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 3 คน ทำให้ยอดสะสมขยับมาอยู่ที่ 9 คน และมีอยู่ 3 คนที่เสียชีวิต โดยล้วนแต่เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อน
ในวันศุกร์ (2) ทางการอาร์เจนตินายืนยันพบผู้ป่วยปอดบวมเป็นรายที่ 10
อาการของผู้ป่วยเหล่านี้คือ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดในช่องท้อง และหายใจติดขัด ขณะที่หลายคนยังมีอาการปอดบวมทั้ง 2 ข้าง
PAHO ระบุว่า ผลการตรวจหาเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ออกมาเป็น “ลบ” ทั้งหมด และได้มีการส่งตัวอย่างทางชีววิทยาไปตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการและสถาบันสุขภาพแห่งชาติอาร์เจนตินา ซึ่งจะมีการตรวจหาร่องรอยของสารพิษ (toxins) ด้วย
ดร.ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา ให้ความเห็นว่า ผู้ป่วยทุกคนล้วนมีปัญหาที่ปอด สาเหตุของโรคนี้จึงน่าจะเกิดจากการหายใจเอาบางสิ่งบางอย่างเข้าไป
ตอนแรกเขาสันนิษฐานว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจเป็นโรคลีเจียนแนร์ (Legionnaires' disease) ซึ่งเกิดจากการหายใจเอาละอองน้ำที่ปนเปื้อนแบคทีเรียลีจิโอเนลลา (Legionella bacteria) เข้าไป แต่ผลตรวจยืนยันว่า “ไม่ใช่”
PAHO และ WHO ยืนยันว่ากำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นในการตรวจหาต้นตอของโรคนี้
ที่มา : รอยเตอร์