xs
xsm
sm
md
lg

งานกร่อย! อียูตกลงกันไม่ได้ สุดท้ายไม่แบนวีซ่าชาวรัสเซียโดยสิ้นเชิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐมนตรีต่างประเทศอียูในวันพุธ (31 ส.ค.) ตัดสินใจกำหนดข้อจำกัดมากขึ้นและใช้เวลานานขึ้นสำหรับชาวรัสเซียที่ประสงค์ยื่นขอวีซ่าสำหรับเดินทางมายังสหภาพยุโรป แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ในข้อเสนอแบนวีซ่ารัสเซียโดยสิ้นเชิงทั่วอียู ตามที่ยูเครน และรัฐสมาชิกหลายประเทศเรียกร้อง

ในเวลานี้อียูมีความเห็นแตกแยกกันอย่างหนักเกี่ยวกับมาตรการแบนอย่างครอบคลุม ทำให้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ และฟินแลนด์ ซึ่งมีชายแดนติดกับรัสเซียจะใช้มาตรการฝ่ายเดียวใดบ้างสำหรับจำกัดการเข้าถึงของบรรดาผู้มาเยือนจากรัสเซีย

ทั้ง 5 ประเทศยินดีระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่ากับรัสเซีย แต่ 4 ในนั้นเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อจำกัดจำนวนการออกวีซ่าและจำกัดจำนวนชาวรัสเซียที่เดินทางเข้ามายังอียู นับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์

"จนกว่ามาตรการเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ในระดับอียู เราจะพิจารณาเปิดตัวมาตรการชั่วคราวในระดับชาติเกี่ยวกับการแบนวีซ่า หรือจำกัดการข้ามชายแดนของพลเมืองรัสเซียที่ถือวีซ่าอียู เพื่อจัดการกับประเด็นความปลอดภัยสาธารณะในทันที" ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ ระบุในถ้อยแถลงร่วม

อเล็กซานเดอร์ กรุชโค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้โดยปราศจากผลที่ตามมา ตามรายงานของสำนักข่าวอาร์ไอเอ "บรัสเซลส์ตัดสินใจยิงเท้าตัวเองอีกครั้งหรือไม่ มันเป็นการตัดสินใจของพวกเขาเอง"

ส่วน ยาน ลิพาฟสกี รัฐมนนตรีสาธารณรัฐเช็ก บอกว่าคณะกรรมาธิการยุโรปจำเป็นต้องมองหาหนทางต่างๆ เพิ่มเติม ในนั้นรวมถึงสิ่งที่สามารถทำได้กับวีซ่าเชงเกนที่ออกให้ชาวรัสเซียไปแล้วก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม โจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู โต้แย้งว่าการระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่ากับรัสเซีย จะได้ผลอย่างแท้จริงด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว

"มันจะช่วยลดจำนวนวีซ่าใหม่ที่ออกโดยรัฐสมาชิกอียูลงอย่างมาก มันกำลังทำให้เป็นเรื่องยากขึ้นและใช้เวลานานขึ้น" เขากล่าวระหว่างแถลงข่าวในช่วงท้ายการประชุมซัมมิตรัฐมนตรีต่างประเทศอียูในกรุงปราก

บอร์เรลระบุว่า ด้วยที่พบเห็นผู้คนข้ามชายแดนจากรัสเซียเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า

"มันเป็นเรื่องความเสี่ยงด้านความมั่นคงสำหรับประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้" เขากล่าว "ยิ่งไปกว่านั้น เราพบเห็นชาวรัสเซียกำลังเดินทาวมาเพื่อพักผ่อนยามว่างและชอปปิ้ง ราวกับไม่มีสงครามเกิดขึ้นในยูเครน"

จากข้อมูลของ Frontex หน่วยงานดูแลเรื่องชายแดนสหภาพยุโรป พบว่ามีพลเมืองรัสเซียมากว่า 1 ล้านคนเดินทางเข้าอียู ผ่านจุดข้ามแดนทางบกทั้งหลาย นับตั้งแต่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนเริ่มต้นขึ้น ส่วนใหญ่เดินทางผ่านฟินแลนด์และเอสโตเนีย

ยูเครนกล่าวซ้ำๆ ว่าประชาชนทั่วไปชาวรัสเซียต้องเป็นคนชดใช้ต่อปฏิบัติการรุกรานด้วยเช่นกัน ในขณะที่สงครามเข่นฆ่าพลเรือนไปแล้วหลายพันชีวิตและหลายเมืองพังราบเป็นหน้ากลอง

ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (31 ส.ค.) เรียกร้องอียูกำหนดมาตรการแบนวีซ่า โดยบอกว่ามันจะเป็นการตอบโต้ที่้เหมาะสมต่อสงครามรุกรานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของรัสเซียในใจกลางยุโรปและได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองรัสเซียส่วนใหญ่อย่างท่วมท้น"

อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสและเยอรมนีไม่เห็นด้วย "เราขอเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดที่เกินขอบเขตในด้านนโยบายวีซ่าของเรา เพื่อป้องกันการเพาะบ่มเรื่องเล่าของรัสเซีย และโหมกระพือผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ หรือก่อความผิดพ้องหมองใจในคนรุ่นอนาคต" พวกเขากล่าวในถ้อยแถลงร่วม

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น