เอเจนซีส์ – เพื่อนใกล้ชิดอดีตผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้ายที่ล่มสลาย มิคาอิล กอร์บาชอฟ เปิดเผยล่าสุดว่า เมื่อ 1 เดือนก่อนการเสียชีวิตในวันอังคาร(30 ส.ค)พบว่า เขาเคยเอ่ยปากแสดงความรู้สึกผิดหวังกับประเทศรัสเซียในยุคปัจจุบัน และคิดว่าการทำงานปฎิรูปในการเป็นผู้นำโซเวียตคนสุดท้ายของเขาถูกทำลาย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ออกมาสดุดีแต่ยังไม่ปริปากถึงการจัดพิธีศพระดับรัฐของเครมลิน
บิสซิเนสอินไซเดอร์ สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(31 ส.ค)ว่า อดีตผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย มิคาอิล กอร์บาชอฟ เสียชีวิตลงในวันอังคาร(30)ในขณะที่มีอายุ 91 ปี เขาถือเป็นบุคคลที่ช่วยเหลือให้สงครามเย็นระหว่างโซเวียตและสหรัฐฯต้องสิ้นสุดลง และทำให้เกิดยุคความอบอุ่นในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและโลกตะวันตกเริ่มต้นขึ้น
อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้กันว่า ประธานาธิบดีรัสเซียคนปัจจุบัน วลาดิมีร์ ปูติน และกอร์บาชอฟ มีความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดี โดยปูตินเคยออกมาวิจารณ์การล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียตว่า เป็นหายนะทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งยุค เดอะการ์เดียนรายงาน
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์และเดอะการ์เดียน ซึ่งในช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่พบว่ากอร์บาชอฟได้ออกมาวิจารณ์ปูตินอย่างระมัดระวัง สำหรับการยกเลิกการปฎิรูปทางประชาธิปไตยและการนำสิ่งที่คล้ายกับในสมัยอดีตสหภาพโซเวียตกลับมาอีกครั้งและยังสรรเสริญปูตินในเรื่องการทำให้รัสเซียกลับมาเป็นปีกแผ่นหลังการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียต
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า อย่างไรก็ตามอดีตผู้นำคนสุดท้ายของโซเวียตไม่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสงครามยูเครนทางสาธารณะ
ซึ่งนักข่าวรัสเซียที่เป็นเพื่อนสนิทของกอร์บาชอฟ อเล็กซี เวนิดิคตอฟ( Alexei Venidiktov) ได้ให้สัมภาษณ์กับฟ็อร์บส์ รัสเซีย( Forbes Russia) ว่า เมื่อราว 1 เดือนก่อนการเสียชีวิตของเขา กอร์บาชอฟเคยออกมาเปรยความรู้สึกผิดหวังต่อประเทศรัสเซียในปัจจุบัน และรู้สึกว่างานการปฎิรูปของเขาที่เคยทำมาในสมัยดำรงตำแหน่งในยุคสหภาพโซเวียตต้องถูกทำลายไป
ทั้งนี้วานิดิคตอฟถูกสัมภาษณ์เกี่ยวข้องกับการสั่งปิดสถานีวิทยุของเขาหลังการกวาดล้างตามคำสั่งปูตินเกี่ยวข้องกับปฎิบัติพิเศษทางทหารในยูเครน
เขาได้ออกมาชี้ให้เห็นถึงการทำงานที่มากมายของกอร์บาชอฟในสมัยที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง เป็นต้นว่าการทำให้ความตรึงเครียดระหว่างโลกตะวันตกและโซเวียตลดลงรวมไปถึงการให้เสรีภาพมากขึ้นแก่ประชาชน แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้ถูกเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามในสมัยปูติน
“สิ่งที่มิคาอิล กอร์บาชอฟทำทั้งหมดทั้งหมดนั้นถูกทำลาย สิ่งที่กอร์บาชอฟได้เคยปฎิรูปมากลับกลายเป็นศูนย์ กลายเป็นเถ้า กลายเป็นควัน เมื่อกอร์บาชอฟออกไปมีราว 4,000 นายในกองกำลังตอบโต้เร็วของนาโตในยุโรป แต่ในเวลานี้นาโตประกาศว่าจะมีถึง 300,000 นายภายในสิ้นปีหน้า”
และกล่าวต่อว่า “ผมสามารถบอกคุณได้ว่ากอร์บาชอฟรู้สึกผิดหวัง ซึ่งแน่นอนว่าเขาเข้าใจ มันเป็นชีวิตการทำงานของเขา เสรีภาพเป็นเรื่องสำคัญของกอร์บาชอฟ ทุกคนลืมไปแล้วว่าใครได้ให้เสรีภาพต่อคริสตจักรรัสเซียนออร์โธดอกซ์...มิคาอิล กอร์บาชอฟ ทรัพย์สินส่วนบุคคล...มิคาอิล กอร์บาชอฟ แล้วเขาจะกล่าวอะไรออกมาเวลานี้?”
ซึ่งในช่วงต้นฤดูร้อนมีรายงานว่า กอร์บาชอฟป่วยด้วยปัญหาโรคตับ
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ปูตินที่เคยมีปัญหาความสัมพันธ์ไม่สู้ดีกับกอร์บาชอฟถึงแม้จะออกมาสดุดีต่อการจากไปของเขาและส่งสารแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของกอร์บาชอฟแต่ทว่าตัวเขายังไม่ได้เปิดเผยไปถึงพิธีศพระดับรัฐของอดีตประธานาธิบดีคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต
“มิคาอิล กอร์บาชอฟเป็นทั้งนักการเมืองและรัฐบุรุษที่มีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อประวัติศาสตร์โลก” ประธานาธิบดีปูตินส่งสารแสดงสดุดีผ่านทางเทเลแกรม และเสริมต่อว่า “เขาเป็นผู้นำชาติของเราในช่วงเวลาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกตะลึง และความท้าท้ายทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความจำเป็นของการปฎิรูปและเสนอทางแก้ไขของเขาเพื่อการแก้ปัญหา”
โดยดมิตรี เพซคอฟกล่าวในเรื่องนี้ว่า “ยังไม่มีการตัดสินใจในจุดนี้ที่ว่ากอร์บาชอฟจะได้รับพิธีศพระดับรัฐหรือไม่” แต่กล่าวว่าจะมีการแถลงในวันพุธ(31)
สื่ออังกฤษชี้ว่า เป็นไม่ปกติเป็นอย่างมากที่อดีตประธานาธิบดีโซเวียตจะไม่ได้รับเกียรติสำหรับพิธีศพระดับรัฐโดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งในรัสเซียและในโลกตะวันตกเช่นกอร์บาชอฟ