อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลา (Tesla) กล่าวในที่ประชุมด้านพลังงานที่นอร์เวย์เมื่อวันจันทร์ (29 ส.ค.) ว่า เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ (self-driving technology) ของเทสลาน่าจะพร้อมใช้ภายในสิ้นปีนี้ โดยอาจจะมีการใช้งานอย่างกว้างขว้างทั้งในสหรัฐฯ รวมถึงภูมิภาคยุโรป
มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกระบุว่า 2 สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดในตอนนี้ก็คือโครงการยานอวกาศสตาร์ชิป (Starship) ของสเปซเอ็กซ์ และเทคโนโลยีรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติของเทสลา
“เทคโนโลยี 2 อย่างที่ผมให้ความสนใจที่สุด และต้องการทำให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ก็คือส่งยานอวกาศสตาร์ชิปขึ้นสู่วงโคจร และทำให้รถยนต์เทสลาสามารถขับขี่ด้วยตัวเองได้” มัสก์ กล่าวต่อบรรดาผู้ฟัง
“ผมหวังว่ารถยนต์ไร้คนขับจะถูกใช้งานในวงกว้าง อย่างน้อยก็ในสหรัฐฯ และอาจจะรวมถึงภูมิภาคยุโรปด้วย ขึ้นอยู่กับกระบวนการขออนุญาตทางกฎหมาย” มัสก์ กล่าว
ก่อนหน้านั้น มัสก์ ย้ำว่าโลกยังคงจำเป็นที่จะต้องขุดเจาะเอา “น้ำมัน” และ “ก๊าซธรรมชาติ” ออกมาใช้เพื่อ “ธำรงไว้ซึ่งอารยธรรม” ควบคู่ไปกับการพัฒนาแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน
“ว่ากันตามตรง ผมคิดว่าเรายังจำเป็นจะต้องใช้น้ำมันและก๊าซกันในระยะสั้น เพราะไม่เช่นนั้นอารยธรรมก็จะเสื่อมสลาย” มัสก์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นอร์เวย์ควรที่จะขุดเจาะก๊าซและน้ำมันต่อไปหรือไม่? มัสก์ ตอบว่า “ผมคิดว่าการสำรวจพลังงานเพิ่มเติมบางอย่าง ยังเป็นเรื่องสมเหตุสมผลในตอนนี้”
“หนึ่งในปัญหาท้าทายที่สุดที่โลกเคยเผชิญมาก็คือ การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานหมุนเวียนและประคับประคองเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน... ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะสำเร็จ”
มัสก์ ระบุด้วยว่า ทุ่งกังหันลมกำเนิดไฟฟ้าที่นอกชายฝั่งทะเลเหนือ บวกกับการใช้แบตเตอรี่ จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งพลังงานที่สำคัญและยั่งยืนได้สำหรับช่วงฤดูหนาว
ที่มา : รอยเตอร์