ตึกระฟ้า 2 หลังที่ก่อสร้างอย่างผิดกฎหมายใกล้กรุงนิวเดลี ของอินเดีย ถูกระเบิดทำลายเมื่อวันอาทิตย์ (28 ส.ค.) ที่ผ่านมา โดยถือเป็นปฏิบัติการทำลายตึกสูงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ และใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที
ทางการอินเดียได้อพยพประชาชนกว่า 1,500 ครอบครัว ออกนอกพื้นที่ล่วงหน้า 7 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกดชนวนระเบิดทำลายอาคารแฝด 32 ชั้น และ 29 ชั้น ซึ่งมีความสูงเกือบ 100 เมตร ในเมืองนอยดา (Noida) ชานกรุงนิวเดลี
“โดยรวมๆ ทุกอย่างโอเค” ริทู มเหศวารี เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียให้สัมภาษณ์ “มันเป็นไปตามที่เราคาดหมายไว้”
การระเบิดทำลายตึกคู่นี้ใช้เวลาเพียงแค่ 9 วินาที แต่ผ่านการต่อสู้ในชั้นศาลมานานถึง 12 ปี ระหว่างชาวบ้าน กับบริษัทซูเปอร์เทค (Supertech) ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ
ศาลสูงสุดอินเดียมีคำพิพากษาว่า ซูเปอร์เทค สมคบคิดกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมอาคาร ซึ่งกำหนดให้ต้องมีการเว้นระยะห่างจากอาคารหลังอื่นๆ นอกจากนี้ ยังพบว่าอาคารแฝดดังกล่าวสร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้ขอความยินยอมจากเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ พบว่าอพาร์ตเมนต์บางหลังอยู่ห่างจากอาคารที่ถูกระเบิดเพียงแค่ 9 เมตร ในขณะที่กฎหมายกำหนดระยะห่างปลอดภัยเอาไว้ 20 เมตร
บริษัท Edifice Engineering ร่วมกับบริษัท Jet Demolition สัญชาติแอฟริกาใต้ ได้เข้ามารับภารกิจทำลายตึกนี้ด้วยสนนราคา 180 ล้านรูปี โดยมีการใช้ระเบิดมากถึง 3,500 กิโลกรัมฝังเข้าไปตามจุดต่างๆ ของอาคารด้วยเทคนิคแบบ waterfall ซึ่งจะทำให้อาคารแต่ละชั้นค่อยๆ ทรุดตัวตามกันลงมา
การระเบิดตึกสูงครั้งนี้ก่อให้เกิดเศษซากปรักหักพังมากถึง 88,000 ตัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเคลื่อนย้ายได้เสร็จภายใน 3 เดือน
ที่มา : AP