ดูเสื้อผ้า หน้า ผม และพุงพลุ้ยทะลักของสองผู้บริหารหนุ่มใหญ่ญี่ปุ่น แห่งบริษัทรักษาความปลอดภัยสองนายนี้แล้ว จะไม่เห็นออร่าความพิเศษใดๆ เลย พวกเขาก็เหมือนๆ มนุษย์เงินเดือนปกติทั่วไปที่เห็นได้เกลื่อนแดนปลาดิบ อันได้แก่ บ้างาน อ้วนพุงโต ท่าทางใจดี
ถ้าไม่มีใครบอกก็จะนึกไม่ถึงเลยว่าซีอีโอของบริษัทรักษาความปลอดภัยไดเกียวซีเคียวริตี กับผู้จัดการทั่วไปคู่หูของเขา ติดกลุ่มดาวดังดาราใหญ่ขั้นสุดของติ๊กต็อกแห่งแดนอาทิตย์อุทัย มีผู้ติดตามมหาศาลกว่า 2.7 ล้านราย และสามารถเรียกไลก์ได้ 54 ล้านไลก์กันเลยทีเดียว ที่ผ่านมา สองหนุ่มได้รับรางวัลเกียรติยศในฐานะเทรนด์-เซตเตอร์ แห่งแอปเจ้าดังซึ่งเป็นแหล่งการแชร์คลิปวิดีโอยอดนิยมระดับโลก
แอ็กเคานต์บนติ๊กต็อกของบริษัทไดเกียว ซีเคียวริตี จำกัด (Daikyo Security Co.) ซึ่งมากมายด้วยคลิปเต้นติงต๊องแดนซ์กระจายของชายพุงโต คลิปสวาปามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แล้วก็คลิปขำกลิ้งบ้าๆ บอๆ อิงชีวิตประจำวันมากมายนั้น เป็นผลงานสร้างสรรค์จากสมองฮาเฮของซีอีโอไดสุเกะ ซากุไร แห่งบริษัทรักษาความปลอดภัยไซส์เล็ก ที่โด่งดังระเบิดระเบ้อด้านแบรนด์เนมแห่งความสุขสันต์หรรษา
ในเวลาซึ่งมิได้ถ่ายทำคลิปไปกระแทกต่อมหัวเราะของผู้คน หนุ่มใหญ่ไดสุเกะ ซากุไร เป็นมนุษย์ซีอีโอญี่ปุ่นที่ไม่เสแสร้ง ไม่โอ้อวด ผู้ซึ่งซีเรียสสุดๆ กับการขยายพลังของแบรนด์บริษัท ตลอดจนการพิถีพิถันคัดเลือกคนเข้าเป็นพนักงานของไดเกียว ซีเคียวริตี ที่เจ้าตัวบอกว่าบริษัทจะอยู่รอดได้ต้องพึ่งพิงปัจจัยด้านพนักงานเป็นด้านหลัก
ซีอีโอซากุไรเล่าสู่นักข่าวเอพีว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยไดเกียว ซีเคียวริตี อยู่รอดมาได้เนิ่นนานกว่า 55 ฤดูสปริงแล้วหลังจากตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1967 โดยปัจจุบันมีพนักงานรักษาความปลอดภัย 75 ราย และพนักงานฝ่ายบริหารจัดการ 10 ราย ซึ่งนั่งทำงานกันที่สำนักงานเล็กๆ บนชั้น 2 ของอาคารทึบทึมในตรอกแห่งหนึ่งของย่านดาวน์ทาวน์กรุงโตเกียว
“ภารกิจของเราเป็นอะไรที่ถูกเรียกว่า งาน 3-เค ในภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ” ซีอีโอซากุไรเล่าอย่างนั้น โดยหมายถึง ‘คิทซุย คิตานาอิ และคิเคน’ หรือก็คืองานโหดๆ ที่ ‘หนักเหนื่อย สกปรก และอันตราย’
ทั้งนี้ ปฏิบัติการของพนักงานรักษาความปลอดภัยแห่งไดเกียว ซีเคียวริตี จะอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง โดยจะต้องคอยกำกับการจราจรของรถราใหญ่น้อยด้วยกระบองไฟกะพริบ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะไม่มีรถบรรทุกวิ่งเข้าออกแล้วไปแล่นทับคนเดินถนน
งานเหล่านี้ไม่ต้องใช้ทักษะความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์ กระนั้นก็ตาม ไม่มีใครอยากจะทำงานกลางแจ้งและดมฝุ่นวันละนานๆ เป็นหลายๆ ชั่วโมง ซีอีโอซากุไรบอกว่า มีบริษัทรักษาความปลอดภัยมากมายตั้ง 99 บริษัททีเดียวที่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิง “คนที่ใช่” มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแบบนี้ ซึ่งสถานการณ์จะปรากฏเป็นตรงกันข้ามเลยเมื่อเป็นการประกาศรับสมัครพนักงานตำแหน่งเสมียนประจำออฟฟิศ แบบว่าประกาศและเปิดรับสมัครกันทีหนึ่งก็สามารถหาผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมได้ 2 คนต่อ 1 ตำแหน่งอย่างง่ายดาย
แล้วต้องไม่ลืมว่านี่คือญี่ปุ่นซึ่งกลายเป็นสังคมชาวสูงวัยไปอย่างรวดเร็วมาก ทุกๆ ภาคส่วนต่างประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานกันทั้งสิ้น
ซีอีโอเจ้าปัญญาอย่างซากุไร จึงปิ๊งไอเดียขึ้นมา ทำไมถึงไม่ลองหันมาพึ่งพาสื่อสังคมล่ะ ในเมื่อแพลตฟอร์มเหล่านั้นมันเป็นแหล่งอันแน่นขนัดด้วยคนหนุ่มคนสาวจำนวนมหาศาลอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อคิดดังนั้น ซากุไรก็เริ่มต้นด้วยการโพสต์เปิดตัวบริษัทด้วยคลิปเพี้ยนๆ ฮาๆ บนทวิตเตอร์ และอินสตาแกรมก่อน แต่จนกระทั่งเมื่อเขาลองดูที่ติ๊กต็อกน่ะแหละ อะไรต่ออะไรก็กลายเป็นไวรัลไปหมด
คลิปที่ฮอตฮิตเฮฮาสะเทือนเลื่อนลั่น คือ ผู้จัดการทั่วไป โทโมฮิโกะ โคจิมะ เอาแผ่นเจล มาวาดลูกตาของตัวการ์ตูนเรื่องโน้นเรื่องนี้ แล้วเดินเข้าห้องนายใหญ่ ตวัดแผ่นเจลไปที่หน้าของซีอีโอ ผู้เป็นเจ้านายแสนซี้ และแผ่นเจลก็แปะเข้าไปที่แว่นตาของซีอีโอซากุไรแบบว่าเป๊ะปังทีเดียว
เขาขว้างแผ่นเจลลูกตาของการ์ตูนตัวไหน ก็จะมีอักษรชื่อการ์ตูนตัวนั้นปรากฏบนคลิปแบบว่าย้ำความเฮ โดยซีอีโอพุงโตอย่างซากุไรนั้น แสนซื่อ ยอมให้ลูกน้องรังแกขำๆ ไม่มีโกรธเคืองโต้ตอบ
ซีอีโอ และผู้จัดการทั่วไปบอกเอพีอย่างภาคภูมิใจสุดๆ ว่าพวกเขาถ่ายคลิปการสลัดมือตวัดแผ่นเจลให้ลอยหวือไปแปะที่แว่นตาของซีอีโอได้สำเร็จกันจริงๆ โดยไม่มีการคัตหรือตัดต่อภาพเลย ทั้งนี้ ผู้จัดการโคจิมา ต้องใช้ความพยายามฝึกปรือฝีมืออยู่นาน กว่าที่จะตวัดให้แผ่นเจลพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็วแม่นยำ และสามารถแปะเป๊ะลงบนที่หมายได้อย่างถูกต้อง
“แต่ผมไม่ได้ฝึกซ้อมความชำนาญในเวลาทำงานนะครับ” ผู้จัดการโคจิมะกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะ
คลิปติงต๊องทั้งปวงได้ทำหน้าที่สื่อสารไปถึงใจของท่านผู้ชมว่า ไดเกียว ซีเคียวริตีไม่สนใจธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมในเรื่องระบบอาวุโส ซึ่งบ่อยครั้งกลายเป็นระบบกดขี่กันในบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมาก เมื่อมาทำงานที่ไดเกียว ซีเคียวริตี พนักงานสามารถสลัดมือตวัดแผ่นเจลใส่แว่นของซีอีโอได้ทุกคน
พลังของคลิปเฮฮาน่ารักนับว่าสูงทีเดียว มันทำให้คนหนุ่มคนสาวประทับใจและมีความรู้สึกดีๆ ต่อบริษัทไดเกียว ซีเคียวริตี แต่ก่อนแต่ไรที่ยังไม่เคยไปโพสต์คลิปเล่นสนุกติงต๊องบนติ๊กต็อกนั้น จำนวนของผู้ที่ส่งใบสมัครเข้าทำงานกับไดเกียว ซีเคียวริตี คือ ศูนย์ราย แต่หลังจากมีติ๊กต็อกแล้ว ไดเกียว ซีเคียวริตีมีผู้สมัครเข้าทำงานรักษาความปลอดภัย 3-เคแห่งความหนักเหนื่อย สกปรก และอันตราย รอบละหลายสิบรายทีเดียว โดยผู้สมัครบางคนบอกว่าอยากมีโอกาสได้ร่วมงานบนคลิปวิดีโอแสนหรรษาด้วย
มีหลากหลายคลิปที่นำเสนอควบคู่กับเสียงเพลงครึกครื้นน่าฟัง อย่างเช่นคลิปหนึ่ง พนักงานโชว์การเจียวไข่ พร้อมออกลีลาสุดว้าวสุดฮา มีการพลิกกลับไข่เจียวลาวาน่าอร่อยอย่างคล่องแคล่ว ควบคู่กับเสียงเพลงสนุกๆ อย่าง "World's Smallest Violin" วง AJR วงป็อปทรีโออเมริกัน
คลิปเหล่านี้ให้ภาพชีวิตเปี่ยมความสุข ห้อมล้อมด้วยความครื้นเครง เชิดชูบรรยากาศสมถะเรียบง่าย ขณะที่เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบทั้งชายและหญิงปฏิบัติงานกันไปโดยไม่ทำให้ตัวเองเคร่งเครียดมากมายเกิน
พนักงานของไดเกียว ซีเคียวริตีเป็นคนดีของประเทศญี่ปุ่น และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาแฮปปี้ที่จะทำงานด้วยกัน
ความสำเร็จของพวกเขาเชือดเฉือนสุดขั้วกับภาพลักษณ์แห่งความเป็น “แจแปน อิงก์” ซึ่งถูกมองว่าเป็นพวกที่ตกยุค ถูกเทคโนโลยีดิจิทัลทอดทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชากรชายสูงวัยซึ่งยึดติดแน่นอยู่กับวิถีทางของตนเอง และไม่สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้
ในทุกวันนี้ ติ๊กต็อกเต็มไปด้วยธุรกิจต่างๆ ที่แสวงประโยชน์ในเชิงโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่สนใจของประชาชน ตั้งแต่พวกผับบาร์ ไปจนถึงร้านเสริมสวย และบริษัทผู้ให้บริการแท็กซี่
ตอนนี้ ซีอีโอซากุไร มองไกลไปถึงการสร้างอิทธิพลในระดับโลกกันเลยทีเดียว ด้วยความหวังว่าจะสามารถดึงดูดแรงงานจากประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม หรืออินโดนีเซีย โดยที่ไดเกียว ซีเคียวริตี จะจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้แรงงานต่างชาติสามารถทำงานโดยใช้ภาษาอังกฤษได้
ดังนั้น จึงมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ออกมาเร็วๆ นี้ เป็นแผ่นเจลซึ่งเขียนรูปธงชาติของประเทศต่างๆ มุกตรงนี้สามารถเรียกคอมเมนต์ได้เป็นหมื่นๆ และมียอดวิวหลายล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในคลิปที่เหวี่ยงแผ่นเจลธงชาติมองโกเลีย มีผู้ชมจากมองโกเลียหลายคนเขียนคอมเมนต์แสดงความขอบคุณ ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ชมจากชาติอื่นๆ รีเควสต์ขอธงชาติที่พวกเขาชื่นชอบ เช่น ลิทัวเนียบ้าง เลบานอนบ้าง
เรื่องนี้ชี้บ่งออกมาว่า ติ๊กต็อกช่วยให้ไดเกียว ซีเคียวริตี ก้าวข้ามข้อจำกัดด้านภาษาและวัฒนธรรมด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่ทำให้มันดูเวอร์ น่าขำน่าเอ็นดู ผ่านการเล่นมุกที่โดนใจและเขย่าต่อมหัวเราะฮาสนั่นได้อย่างสากล
“สิ่งที่ทำให้งานของผมดูมีคุณค่าก็คือว่า มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคน” ผู้จัดการโคจิมะ บอก
“และสิ่งที่ดึงดูดผมได้คือคน ไม่ใช่สิ่งของ”
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา : เอพี ติ๊กต็อก)