เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - เรือยามฝั่งคัตเตอร์สหรัฐฯ ปฏิบัติการตรวจการทำประมงเถื่อนในมหาสมุทรแปซิฟิก ล่าสุด ถูกหมู่เกาะโซโลมอนห้ามเข้าแวะจอดพักเพื่อเติมเชื้อเพลิงไม่ยอมตอบสัญญาณวิทยุขอแวะเข้าท่า ระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังเปิดศึกตอบโต้ทางการเดินทางอากาศ วอชิงตันเปิดแถลงวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.) สั่งยุติเที่ยวบินจากจีนเข้าสหรัฐฯ จำนวน 26 เที่ยวเดือนหน้า จากบริษัทสายการบินจีนชื่อดัง 4 แห่ง รวมแอร์ไชน่า หลังไม่พอใจหนักปักกิ่งสั่งยกเลิกเที่ยวบินสายการบินสหรัฐฯ อ้างเคสโควิด-19 เป็นเหตุ
ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานวันอาทิตย์ (28 ส.ค.) ว่า เรือยามฝั่งสหรัฐฯ USCGC โอลิเวอร์ เฮนรี (USCGC Oliver Henry) ซึ่งเป็นเรือชั้นคัตเตอร์ ถูกหมู่เกาะโซโลมอนที่มีสัมพันธ์แนบแน่นกับจีนห้ามไม่ให้เข้าจอดแวะพักเพื่อเติมเชื้อเพลิงหลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการ “Operation Island Chief” ซึ่งเป็นปฏิบัติการตรวจสอบการทำประมงเถื่อนในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ที่เสร็จสิ้นลงในวันศุกร์ (26)
สำนักงานยามฝั่งสหรัฐฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า เรือยามฝั่ง USCGC โอลิเวอร์ เฮนรี จากเกาะกวม หลังจากส่งคำขอเพื่อเข้าแวะเกาะกัวดัลคะแนล (Guadalcanal) ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะโซโลมอน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอน ส่งผลทำให้เรือยามฝั่งต้องบ่ายหัวเรือเข้าไปหมู่เกาะปาปัวนิวกินีแทน
นอกเหนือจากสหรัฐฯ แล้ว มีรายงานว่า เรือรบตรวจการณ์กองทัพเรืออังกฤษ HMS สเปย์ (HMS Spey) ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการตรวจการทำประมงเถื่อนในมหาสมุทรแปซิฟิกเช่นกันไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนในการขอเข้าจอดเทียบท่า แต่ทว่าทางกองทัพเรืออังกฤษไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้
ทั้งนี้ พบว่า ทั้ง 2 ประเทศสหรัฐฯ และอังกฤษ รวมออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อยู่ร่วมในปฏิบัติการ Operation Island Chief ที่ให้การสนับสนุนผ่านการเฝ้าจับตาทางอากาศและเหนือผิวน้ำสำหรับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกทั้งหลายในปฏิบัติการที่รวมถึงหมู่เกาะโซโลมอน
สื่อ VOXY ของนิวซีแลนด์รายงานวันศุกร์ (26) ว่า สำนักงานประมงของประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกฟอรัม FFA (Pacific Islands Forum Fisheries Agency) เป็นผู้นำปฏิบัติการตรวจสอบการทำประมงเถื่อนนี้ที่มีระยะเวลาทั้งหมด 12 วัน โดยพื้นที่ปฏิบัติการจะครอบคลุมชาติสมาชิกหมู่เกาะแปซิฟิกฟอรัม FFA ทั้ง 11 ชาติ
ปฏิบัติการจะมีกำลังเข้าร่วม 400 นาย จากกองทัพเรือ ตำรวจ กองทัพอากาศ และหน่วยงานประมงจากประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก
ความกดดันยังเกิดขึ้นก่อนหน้าโดยรอยเตอร์รายงานว่า วอชิงตันในวันพฤหัสบดี (25) แถลงสั่งยุติเที่ยวบินจากจีนรวมทั้งหมด 26 เที่ยว เพื่อตอบโต้ปักกิ่งที่อ้างมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยการสั่งยกเลิกเที่ยวบินจากสหรัฐฯ ก่อนหน้า
ซึ่งจำนวนทั้งหมด 26 เที่ยวบินนี้มาจากสายการบินพาณิชย์จีน 4 บริษัท โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ USDOT แถลงว่าเที่ยวบินสั่งยกเลิกชั่วคราวจากจีนที่ได้รับผลกระทบประกอบไปด้วย สายการบินเซี่ยเหมินแอร์ไลน์ สายการบินแอร์ไชน่า สายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ส และสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ส
รอยเตอร์รายงานว่า เที่ยวบิน 26 เที่ยวจากจีนเข้าสหรัฐฯ ที่ถูกสั่งระงับชั่วคราวนั้นจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 5 ก.ย. ไปจนถึงวันที่ 28 ก.ย.ที่จะถึง
ในรายงานพบว่า ทางกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ได้อ้างคำสั่งการยกเลิกจากจีนเมื่อไม่นานมานี้จำนวน 26 เที่ยวบินต่อเคสโควิด-19 สำหรับสายการบินสัญชาติสหรัฐฯ ได้แก่ สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ส และสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส
การยกเลิกชั่วคราวยังรวมไปถึง 19 เที่ยวบินมุ่งสู่จีนจากเมืองลอสแองเจลิส และอีก 4 เที่ยวบินของไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ส เที่ยวบินจากนิวยอร์ก
โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หลิว เผงยู (Liu Pengyu) กล่าวตอบโต้ว่า คำสั่งยุติเที่ยวบินของกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ นั้นไร้ความรับผิดชอบอย่างสูง และไม่มีสาเหตุที่ต้องสั่งระงับเที่ยวบินสายการบินจีน
พร้อมกันนี้ ยังกล่าวปกป้องมาตรการป้องกันโควิด-19 ของปักกิ่งว่า “เป็นธรรมและโปร่งใส” ซึ่งถูกใช้ทั้งสายการบินจีนและสายการบินต่างชาติ และอีกทั้งยังสอดคล้องกับข้อตกลงการขนส่งทางอากาศระดับทวิภาคี